Comparative study of crude oil transportation

การศึกษาเชิงเปรียบเทียบนี้ใช้กระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ (Analytic Hierarchy Process) เพื่อเลือกวิธีการขนส่งน้ำมันดิบที่เหมาะสมและตอบสนองกับนโยบายของบริษัท โดยกระบวนการวิเคราะห์นี้จะช่วยในการนำปัจจัยทั้งหมดที่ต้องการใช้เพื่อเปรียบเทียบ ทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสิ...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Natawan Sittipolkul
Other Authors: Parames Chutima
Format: Theses and Dissertations
Language:English
Published: Chulalongkorn University 2016
Subjects:
Online Access:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:48077
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: English
Description
Summary:การศึกษาเชิงเปรียบเทียบนี้ใช้กระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ (Analytic Hierarchy Process) เพื่อเลือกวิธีการขนส่งน้ำมันดิบที่เหมาะสมและตอบสนองกับนโยบายของบริษัท โดยกระบวนการวิเคราะห์นี้จะช่วยในการนำปัจจัยทั้งหมดที่ต้องการใช้เพื่อเปรียบเทียบ ทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งปัจจัยทั้งหมดจะถูกนำมาเปรียบเทียบในเกณฑ์เดียวกัน โดยมีสี่ปัจจัยหลักคือ ค่าใช้จ่าย ความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการขนส่งน้ำมันดิบ ผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และการยอมรับจากชุมชน ปัจจัยข้างต้นจะถูกนำมาเปรียบเทียบเพื่อหาค่าความสำคัญสุดท้ายในการเลือกระหว่างการใช้รถบรรทุกน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นวิธีดำเนินการปัจจุบันของบริษัท หรือ การสร้างท่อขนส่งน้ำมันจากสถานีผลิตลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชรไปจนถึงคลังน้ำมันดิบบึงพระ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยปัญหาที่พบเจอในการดำเนินงานปัจจุบันของบริษัทคือ ความไม่ต่อเนื่องในการขนส่งน้ำมันดิบในหน้าฝนที่เกิดน้ำท่วมในหลายจุด ทำให้การขนส่งชะงัก รวมทั้งนโยบายความปลอดภัยของบริษัทที่ต้องการป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้รถบรรทุกไม่สามารถวิ่งในตอนกลางคืนได้ รวมทั้งมีการจำกัดความเร็วในการวิ่งของรถบรรทุก เป็นผลให้ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเรื่องของการกีดขวางถนนในเวลาเร่งด่วน รวมทั้งสร้างเสียงรบกวนกับชุมชน อย่างไรก็ตามข้อจำกัดหนึ่งคือ การลงทุนที่ต้องใช้ในการสร้างท่อขนส่งน้ำมัน ซึ่งจะมีผลในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆที่กล่าวมาข้างต้น ผลการศึกษาพบว่าการสร้างท่อขนส่งน้ำมันดิบเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการและนโยบายของบริษัท โดยค่าความสำคัญของท่อขนส่งน้ำมันเป็น 59% ในขณะที่ค่าความสำคัญของรถบรรทุกน้ำมันเป็น 41% เนื่องมาจากบริษัทให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการขนส่งน้ำมันเป็นอันดับแรก ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ผลการศึกษาเปลี่ยนแปลงคือ ค่าความสำคัญของ มูลค่าการลงทุน โดยหากเพิ่มค่าความสำคัญของปัจจัยนี้อีก 17.5% การขนส่งทางรถบรรทุกจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการขนส่งโดยท่อขนส่งน้ำมัน