ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: กัญติมา พรหมอักษร
Other Authors: สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2009
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10221
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
id th-cuir.10221
record_format dspace
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
country Thailand
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language Thai
topic แบบการคิด
ความคิดรวบยอด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน
spellingShingle แบบการคิด
ความคิดรวบยอด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน
กัญติมา พรหมอักษร
ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
description วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545
author2 สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม
author_facet สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม
กัญติมา พรหมอักษร
format Theses and Dissertations
author กัญติมา พรหมอักษร
author_sort กัญติมา พรหมอักษร
title ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
title_short ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
title_full ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
title_fullStr ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
title_full_unstemmed ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
title_sort ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
publishDate 2009
url http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10221
_version_ 1681412140781535232
spelling th-cuir.102212009-08-17T09:51:31Z ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ ของบรูเนอร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 Effects of an interaction between cognitive styles and Bruner's concept attainment on mathematics achievement of pratom suksa five students กัญติมา พรหมอักษร สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม นิรมล ชยุตสาหกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ แบบการคิด ความคิดรวบยอด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545 ศึกษาผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดของนักเรียนกับแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลองจำนวน 20 คนและกลุ่มควบคุมจำนวน 20 คน โดยแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) และนักเรียนที่มีแบบการคิดแบบพึ่งพิง (FD) อย่างละ 10 คน กลุ่มทดลองดำเนินการสอนด้วยแผนการสอน ตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ และกลุ่มควบคุมดำเนินการสอนด้วยแผนการสอนตามปกติ เนื้อหาคณิตศาสตร์เรื่อง รูปทรงเรขาคณิต ระยะเวลาการทดลอง 2 สัปดาห์ เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบ GEFT แผนการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทาง (2 WAY ANOVA) และการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดกับแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ และแบบการสอนปกติในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) เมื่อได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ สูงกว่านักเรียนที่มีแบบการคิดแบบ (FD) ที่ได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ ที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) เมื่อได้รับการสอนตามปกติ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ สูงกว่านักเรียนที่มีแบบการคิดแบบ (FD) ที่ได้รับการสอนตามปกติ ที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) เมื่อได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์สูงกว่า นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) ได้รับการสอนตามปกติ ที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบพึ่งพิง (FD) เมื่อได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์ไม่แตกต่างกับ นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบพึ่งพิง (FD) ที่ได้รับการสอนตามปกติที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบอิสระ (FI) เมื่อได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 7. นักเรียนที่มีแบบการคิดแบบพึ่งพิง (FD) เมื่อได้รับการสอนตามแบบการสอนมโนทัศน์ของบรูเนอร์ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 To study the interaction effects between cognitive styles and Bruner's concept attainment on mathematics of Pratom Suksa five students. The subjects were 40 Pratom Suksa five students who were divided into 2 groups: an experimental group and control group. Each group composed of 10 field independent (FI) students and 10 field dependent (FD) students. The experimental group was taught by Bruner's Concept Attainment plan while the control group was taught by traditional plan. The mathematics content was about geometry and the capacity of rectangles. The experiment ran for two weeks. The instruments were The Group Embedded Figure Test (GEFT), the Mathematics plan of Bruner's Concept Attainment and the Mathematics Achievement Test. The data were analyzed by 2 way ANOVA and t-test. The results were as follows: 1. There was an interaction between cognitive styles and Bruner's Concept Attainment on Mathematics Achievement in Pratom Suksa Five students at the significant level of .05. 2. The field independent (FI) students who were taught by Bruner's Concept Attainment had higher scores in Mathematics Achievement than the field dependent (FD) students who were taught by Bruner's Concept Attainment at the significant level of .05. 3. The field independent (FI) students who were taught by traditional teaching had higher scores in Mathematics Achievement than the field dependent (FD) students who was taught by traditional teaching at the significant level of .05. 4. The field independent (FI) students who were taught by Bruner's Concept Attainment had higher scores in Mathematics Achievement than the field independent (FI) students who were taught by traditional teaching at the significant level of .05. 5. The field dependent (FD) students who were taught by Bruner's Concept Attainment had no difference scores in Mathematics Achievement between the field dependent (FD) students who were taught by Bruner's Concept Attainment at the significant level of .05. 6. The field independent (FI) students who were taught by Bruner's Concept Attainment had higher scores in Mathematics Achievement on the posttest than on the pretest at the significant level of .05. 7. The field dependent (FD) students who were taught by Bruner's Concept Attainment had higher scores in Mathematics Achievement on the posttest than on the pretest at the significant level of .05. 2009-08-17T09:51:31Z 2009-08-17T09:51:31Z 2545 Thesis 9741720165 http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10221 th จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 11531061 bytes application/pdf application/pdf จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย