ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม

วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: ปรีชา ทองนวล, 2521-
Other Authors: วันชัย เทพรักษ์
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2006
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/1464
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
id th-cuir.1464
record_format dspace
spelling th-cuir.14642008-02-08T06:18:19Z ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม Effects of construction method of driven spun pile on pile capacity ปรีชา ทองนวล, 2521- วันชัย เทพรักษ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์ เสาเข็ม--การออกแบบและการสร้าง วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546 ปัจจุบันได้มีการนำเสาเข็มแรงเหวี่ยง (Spun pile) มาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อสร้างในพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งมีข้อจำกัดมากมายทั้งในด้านเสียง แรงสั่นสะเทือนและการเคลื่อนตัวของมวลดิน เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยง (Spun pile) สามารถทำการก่อสร้างได้หลายวิธี ทั้งตอกเสาเข็มทั้งต้นจนถึงชั้นทราย (Full drive in sand) สว่านเจาะนำในดินเหนียวพร้อมตอกเสาเข็มสุดท้ายในชั้นทราย (Auger press in clay with final drive in sand ) สว่านเจาะนำในดินเหนียวพร้อมกดเสาเข็มสุดท้ายลงในชั้นทรายพร้อมอัดฉีดน้ำปูนปลายเสาเข็ม (Auger in clay with press into sand with base grouting) และเจาะถึงชั้นทรายพร้อมอัดฉีดน้ำปูนปลายเสาเข็ม (Full auger in sand with base grouting) แต่ละวิธีมีข้อดี - ข้อเสียที่แตกต่างกัน งานวิจัยนี้ได้ทำการเปรียบเทียบผลกระทบที่เกิดจากการก่อสร้างเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยง (Spun pile) ในแต่ละวิธี และความสามารถในการรับน้ำหนักของเสาเข็ม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม งานวิจัยนี้ได้รวบรวมผลการทดสอบกำลังรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็มแรงเหวี่ยงจาก 2 โครงการที่ก่อสร้างด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ผลการทดสอบพบว่าการเจาะดินออก (Auger) ของเสาเข็มจนถึงชั้นทรายจะก่อให้เกิดปัญหาการไหลขึ้นของทราย ( Boiling ) ทำให้เกิดทรายหลวม (Loosening) ที่ปลายเสาเข็ม ทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกต่ำมาก เมื่อทำการอัดฉีดน้ำปูนที่ปลายเสาเข็มจะต้องใช้น้ำปูน (Cement grouting ) เป็นจำนวนมาก การแก้ปัญหาการไหลของทราย และการเกิดทรายหลวมที่ปลายเสาเข็มสามารถป้องกันได้โดยการเจาะดินออก (Auger) จนถึงชั้นดินเหนียวต่อกับชั้นทราย จากนั้นทำการกด (Press) ให้ปลายเสาเข็มจมในชั้นทราย การก่อสร้างเสาเข็มแรงเหวี่ยงโดยวิธีการใช้สว่านเจาะนำในดินเหนียวพร้อมตอกเสาเข็มสุดท้ายในชั้นทรายให้ผลการรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็มใกล้เคียงกับการตอกเสาเข็มทั้งต้น การวิจัยนี้ยังได้นำเสนอค่าพารามิเตอร์ Adhesion Factor (alpha - value) ในชั้นดินเหนียว , Friction factor (beta-value) ในชั้นดินทราย และ Bearing Capacity Factor ( Nq - value ) ในชั้นทรายเพื่อประมาณกำลังรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็มที่ก่อสร้างด้วยวิธีที่แตกต่างกัน Recently, spun pile has been extensively used for construction, especially in the large cities which having the limitation of noise, vibration and soil movements. The spun pile can be constructed by various methods such as Full drive into sand layer, Auger press in clay with final drive in sand, Auger in clay with press into sand with base grouting and Full auger in sand with base grouting. Each methods has different advantages and disadvantages.This research aims to compare the effect of construction method of spun pile to their capacities. The data of static pile load tests was collected from two projects where the spun pile was constructed with different methods. The results showed that the auger into sand layer technique caused boiling and loosening at pile toe and leaded to induce a very low pile capacity. The pile capacity can be recovered after toe grouting with a large volume of grouting cement. This boiling and loosening at pile toe can be minimized by augering up to the clay layer just above the sand layer and press the pile until tip penetrated into sand layer.The spun pile construction by means of auger in clay with final drive in sand showed the performance of pile capacity similar to the spun pile constructed by means of full drive into sand layer.This research also proposed the parameters for estimating the pile capacity with different construction techniques in terms of Adhesion factor (alpha-value) for clay, Friction factor (beta-value) for sand and Bearing capacity factor (Nq-value) for sand. 2006-08-04T10:12:53Z 2006-08-04T10:12:53Z 2546 Thesis 9741745214 http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/1464 th จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 29079430 bytes application/pdf application/pdf จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
country Thailand
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language Thai
topic เสาเข็ม--การออกแบบและการสร้าง
spellingShingle เสาเข็ม--การออกแบบและการสร้าง
ปรีชา ทองนวล, 2521-
ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
description วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546
author2 วันชัย เทพรักษ์
author_facet วันชัย เทพรักษ์
ปรีชา ทองนวล, 2521-
format Theses and Dissertations
author ปรีชา ทองนวล, 2521-
author_sort ปรีชา ทองนวล, 2521-
title ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
title_short ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
title_full ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
title_fullStr ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
title_full_unstemmed ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
title_sort ผลกระทบของวิธีการก่อสร้างเสาเข็มตอกแรงเหวี่ยงที่มีต่อกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม
publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
publishDate 2006
url http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/1464
_version_ 1681409273986285568