การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง
วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2527
Saved in:
Main Author: | |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Theses and Dissertations |
Language: | Thai |
Published: |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2012
|
Subjects: | |
Online Access: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/19815 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Chulalongkorn University |
Language: | Thai |
id |
th-cuir.19815 |
---|---|
record_format |
dspace |
institution |
Chulalongkorn University |
building |
Chulalongkorn University Library |
country |
Thailand |
collection |
Chulalongkorn University Intellectual Repository |
language |
Thai |
topic |
บ้านกับโรงเรียน โรงเรียนประถมศึกษา ผู้ปกครอง |
spellingShingle |
บ้านกับโรงเรียน โรงเรียนประถมศึกษา ผู้ปกครอง กิจ เจือกโว้น การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
description |
วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2527 |
author2 |
สุมน อมรวิวัฒน์ |
author_facet |
สุมน อมรวิวัฒน์ กิจ เจือกโว้น |
format |
Theses and Dissertations |
author |
กิจ เจือกโว้น |
author_sort |
กิจ เจือกโว้น |
title |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
title_short |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
title_full |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
title_fullStr |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
title_full_unstemmed |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
title_sort |
การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง |
publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
publishDate |
2012 |
url |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/19815 |
_version_ |
1681411059572801536 |
spelling |
th-cuir.198152012-06-24T04:20:31Z การเสนอรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา : การศึกษาเฉพาะกรณีในจังหวัดตรัง A proposed model for enhancing home-school relations in elementary schools : a case study in Trang province กิจ เจือกโว้น สุมน อมรวิวัฒน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย บ้านกับโรงเรียน โรงเรียนประถมศึกษา ผู้ปกครอง วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2527 วัตถุประสงค์ของการวิจัย1.เพื่อศึกษาสภาพความสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษาของจังหวัดตรัง2.เพื่อเสนอรูปแบบที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยสร้างรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา โดยอาศัยการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ และการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดตรัง จากนั้นผู้วิจัยได้นำสาระสำคัญของรูปแบบมาสร้างเป็นเครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบสอบถามซึ่งมีข้อกระทงทั้งสิ้น 115 ข้อกระทง ตัวอย่างประชากรของการวิจัยนี้มี 2 กลุ่มคือ บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 244 คน และบุคลากรในชุมชน จำนวน 236 คน รวมเป็น 480 คน ผู้วิจัยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผู้วิจัยนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ของกลุ่มตัวอย่างประชากรมาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนที่สมบูรณ์ ผลการวิจัย 1.องค์ประกอบของรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษาประกอบด้วย หลักการและเหตุผลของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน วัตถุประสงค์วิธีดำเนินงาน ลักษณะของกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน การประสานงานกับบุคคลต่าง ๆ หน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ การจัดหาและจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายในกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน การประเมินโครงการของการจัดกิจกรรมและการเสนอแนะวิธีการแก้ไขอุปสรรคและปัญหาของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา 2.กลุ่มตัวอย่างประชากรทั้ง 2 กลุ่ม เห็นด้วยกับรูปแบบการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นว่า มีความเหมาะสม คลุ่มเนื้อหาสาระสำคัญ มีขั้นตอนแนวการดำเนินงานที่ดี และสามารถนำไปปฏิบัติได้ นอกจากนี้ยังได้ให้ข้อคิดเห็นเสนอแนะเพิ่มเติมคือการนำรูปแบบของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษาไปใช้ในนั้น ควรปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่น การใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมควรใช้อย่างประหยัดและไม่ควรเรี่ยไรจากผู้ปกครอง กล่าวคือ ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อเวลาเรียนของนักเรียน และควรเป็นระยะเวลาที่ผู้ปกครองว่างจากการประกอบอาชีพ ครูจะต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียนและชุมชน ผู้วิจัยได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเหล่านี้มาปรับปรุงรูปแบบที่สร้างขึ้นเป็นรูปแบบส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนประถมศึกษาของจังหวัดตรัง The purposes of the research were 1.To study the relationships and the activities that enhance home-school relations in the elementary schools in Tang Province. 2. To propose the model that enhances home-school relations in elementary school. Procedure The researcher constructed the model for enhancing home-school relationships in the elementary schools by studying related documents and basic data obtained from the rating-scale questionnaire was constructed. There were 115 items in the questionnaire. These items were generated from the eminent concept derived from the constructed model. There were 2 groups of samples in this study, 244 school personnel and 236 layperson. Thus, there were 480 people altogether. The obtained data were analyzed by using percentage, mean and standard deviation. The researcher, then adjusted the model by using the obtained data and suggestions to improve the previous constructed model. Findings 1.The model for enhancing home-school relations were composed of the principles and rationale for enhancing home-school relations in elementary school, objectives, procedure, type of activities, strategies for getting cooperation among organizations and concerned parties, budget management, project evaluations and the suggestions for improvement. 2.Both groups of samples agreed that the model was appropriate and valid. They showed positive attitude towards the model. In addition, they suggested that the model should take into account the immediate environment of each locality. The budget spending shouldn’t request chip-in funding from parents. Readiness for an activity-participating among parents and school personnel should be brought into consideration. Furthermore, they suggested that teachers should demonstrate good action towards home-school relations to public. The researcher considered all suggestions and improved the constructed model. 2012-05-21T15:40:46Z 2012-05-21T15:40:46Z 2527 Thesis 9745639893 http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/19815 th จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 554837 bytes 552649 bytes 1340377 bytes 472702 bytes 1511198 bytes 3132431 bytes 1654030 bytes application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |