ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ

วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2530

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์
Other Authors: สมคิด รักษาสัตย์
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: 2012
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/21541
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
id th-cuir.21541
record_format dspace
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
country Thailand
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language Thai
description วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2530
author2 สมคิด รักษาสัตย์
author_facet สมคิด รักษาสัตย์
ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์
format Theses and Dissertations
author ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์
spellingShingle ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์
ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
author_sort ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์
title ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
title_short ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
title_full ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
title_fullStr ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
title_full_unstemmed ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
title_sort ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ
publishDate 2012
url http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/21541
_version_ 1681409477423661056
spelling th-cuir.215412017-05-11T06:22:55Z ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ The relationships between life satisfaction and illness perception of arthritic patternts ศรีเกียรติ อนันต์สวัสดิ์ สมคิด รักษาสัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2530 การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับการรับรู้ต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคข้ออักเสบที่มี เพศ อายุ และระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ ชนิด ข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์ จำนวน 222 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง เพื่อวัดความพึงพอใจในการดำเนินชีวิต 5 ด้าน ได้แก่ ความพึงพอใจด้านองค์ประกอบในการดำเนินชีวิต ความพึงพอใจด้านร่างกาย ความพึงพอใจด้านสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ความพึงพอใจด้านการงาน และความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ และแบบวัดการรับรู้ต่อความเจ็บป่วย 4 ชนิด ได้แก่ ความรุนแรงของความเจ็บปวด ความเสื่อมสมรรถภาพของอวัยวะ ความสำนึกในคุณค่าของตนเอง และความรู้สึกซึมเศร้า การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สหสัมพันธ์คาโนนิคอล สรุปผลการวิจัยดังนี้ สหสัมพันธ์คาโนนิคอลระหว่างกลุ่มตัวแปรความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตกับกลุ่มตัวแปรการรับรู้ต่อความเจ็บป่วย ของทุกกลุ่มตัวอย่างประชากรมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกค่า และค่าสหสัมพันธ์ของแต่ละกลุ่มที่มีได้สูงสุด สรุปผลได้ดังนี้ 1. ค่าสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรรวมเท่ากับ .80 และตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่ม ในการอธิบายความสัมพันธ์ คือ ความพึงพอใจด้านองค์ประกอบในการดำเนินชีวิต ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ ความสำนึกในคุณค่าของตนเอง และความรู้สึกซึมเศร้า 2. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรเพศชายเท่ากับ .78 และตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่ม ในการอธิบายความสัมพันธ์นี้ คือ ความพึงพอใจด้านการงาน ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ และความรู้สึกซึมเศร้า 3. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรเพศหญิงเท่ากับ .81 และตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่มในการอธิบายความสัมพันธ์ คือ ความพึงพอใจด้านองค์ประกอบในการดำเนินชีวิต ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ ความรุนแรงของความเจ็บปวด และความรู้สึกซึมเศร้า 4. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรที่มีอายุ 20 – 40 ปี เท่ากับ .80 และตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่ม ในการอธิบายความสัมพันธ์ คือ ความพึงพอใจด้านองค์ประกอบในการดำเนินชีวิต และความรู้สึกซึมเศร้า 5. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรที่มีอายุ 41 – 65 ปี เท่ากับ .81 ตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่มในการอธิบายความสัมพันธ์ คือ ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ ความรุนแรงของความเจ็บปวด และความสำนึกในคุณค่าของตนเอง 6. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรระดับประถมศึกษาและต่ำกว่าเท่ากับ .80 ตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่ม ในการอธิบายความสัมพันธ์นี้ คือ ความพึงพอใจด้านองค์ประกอบในการดำเนินชีวิต ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ ความรุนแรงของความเจ็บปวด และความรู้สึกซึมเศร้า 7. ค่าสหสัมพันธ์ที่มีได้สูงสุดของกลุ่มตัวอย่างประชากรระดับมัธยมศึกษาขึ้นไปเท่ากับ .81 ตัวแปรที่มีน้ำหนักมากที่สุดของ 2 กลุ่ม ในการอธิบายความสัมพันธ์นี้คือ ความพึงพอใจด้านร่างกาย ความพึงพอใจด้านการพักผ่อนหย่อนใจ ความเสื่อมสมรรถภาพของอวัยวะ และความรู้สึกซึมเศร้า The purposes of this research were to study relationship between life satisfaction and illness perception of arthritic patients with different sex, age and level of education. The research sample were 222 arthritic patients (Osteoarthritis and Rheumatoid arthritis). The instruments developed by researecher were “Life satisfaction interviews” that could be categorized into five broad areas : material well being, physical satisfaction, relations with other peple, Job satisfaction and recreation ; and “Illness perception interviews” that could be classified into four broad areas : severity of pain, functional impairment, self esteem and depression. The collected data were analyzed by using canonical correlation. The conclusion drawn from data analysis were as follows : Every canonical correlation between life satisfaction group of variables and illness perception group of variables was statistically significant at  = .01 and the highest coefficients for each group were as follows : 1. The highest coefficient for the whole sample was . 80 It was found that material well being, recreation, self esteem and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 2. The highest coefficient for the men sample was .78 It was found that job satisfaction, recreation and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 3.The highest coefficient for the women sample was .81 It was found that material well being, recreation, severity of pain and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 4. The highest coefficient for the 20 – 40 years old samples was .80. It was found that material well being and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 5. The highest coefficient for the 41 – 65 years old samples was .81. It was found that recreation, severity of pain and self esteem were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 6.The highest coefficient for pratom suksa and under of the samples was .80. It was found that material well being, recreation, severity of pain and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 7. The highest coefficient for muthayom suksa and over of the samples was. 81. It was found that physical satisfaction, recreation functional impairment and depression were the best estimator to explain relationships between life satisfaction and illness perception. 2012-08-18T08:41:20Z 2012-08-18T08:41:20Z 2530 Thesis 9745679518 http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/21541 th จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 567844 bytes 641535 bytes 940056 bytes 466996 bytes 691091 bytes 793199 bytes 1110769 bytes application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf application/pdf