ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน

วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: ลักขิกา ธเนศผาติสุข
Other Authors: เทวิน เทนคำเนาว์
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2013
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/30431
http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.1403
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
id th-cuir.30431
record_format dspace
spelling th-cuir.304312019-10-16T02:10:24Z ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน Antidepressant effect of medicinal herbal extracts : molecular mechanism via monoamine neurotransmitter transporters ลักขิกา ธเนศผาติสุข เทวิน เทนคำเนาว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะสหเวชศาสตร์ ความซึมเศร้า ยาแก้เศร้า สารสกัดจากพืช พืชสมุนไพร Depression Antidepressants Plant extracts Medicinal plants วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555 โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากพหุปัจจัย รวมไปถึงความผิดปกติของระบบประสาท โมโนเอมีเนอร์จิก ในปัจจุบัน โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสาธารณสุขทั้งในประเทศไทยและระดับโลก ส่งผลมหาศาลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว โดยผู้ป่วยต้องกินยาต้านโรคซึมเศร้าเป็นระยะเวลานาน ซึ่งนอกจากมีราคาแพงแล้ว ยังมีผลข้างเคียงของยาและมีสิทธิภาพไม่ดีนัก ดังนั้น คณะผู้วิจัยจึงศึกษาหาสารต้านโรคซึมเศร้าชนิดใหม่ที่ให้ผลข้างเคียงต่ำ มีประสิทธิภาพสูงและราคาไม่แพง ทั้งนี้ ได้ศึกษากลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพร ได้แก่ ใบสะระแหน่ (Mentha cordifolia Opiz ex Fresen) ใบขี้เหล็ก (Senna siamea (Lam.)) และบัวบก (Centella asiatica (L.)) ที่สกัดด้วยสารละลายเอทานอล และน้ำ ต่อการต้านโรคซึมเศร้า โดยใช้เซลล์ประสาทเพาะเลี้ยงชนิด LAN-5 เป็นแบบในการทดลอง โดยมุ่งวิเคราะห์ผลของสารสกัดต่อสองกลไกคือ การแสดงออกของยีน hDAT, hSERT และ hNET ในระดับ mRNA โดยใช้เทคนิค RT-PCR และการยับยั้งการทำงานของโปรตีนขนส่งสารสื่อประสาทชนิดซีโรโทนิน โดพามีน และนอร์อิพิเนฟริน โดยใช้เทคนิค uptake assay ด้วยชุดน้ำยา Neurotransmitter transporter uptake assay kit และใช้ยาต้านโรคซึมเศร้า fluoxetine, desipramine และ GBR12935 เป็นยาอ้างอิงในการทดสอบ นอกจากนี้ยังทดสอบความเป็นพิษของสารสกัดสมุนไพรต่อเซลล์ประสาทเพาะเลี้ยง LAN-5 โดยใช้เทคนิค MTT assay จากการศึกษาพบว่า สารสกัดสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ทั้งที่สกัดด้วยเอทานอลและน้ำ มีฤทธิ์ยับยั้งการแสดงออกของยีน hSERT, hDAT และ hNET ได้ในเซลล์ประสาทเพาะเลี้ยง LAN-5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) สารสกัดใบสะระแหน่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของโปรตีนขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโดพามีนและซีโรโทนิน ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) โดยสารสกัดสมุนไพรที่ศึกษานี้ ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ประสาทเพาะเลี้ยง LAN-5 Major depressive disorder (MDD) is a multifactorial disease including the abnormalities of monoaminergic neuronal system. At present, MDD is a public health problem nationwide and worldwide, which enormously leads to the quality of life of patients and their families. MDD patients have to be treated for a long period using anti-depressants, which are not only expensive, but cause unfavorable side effects and ineffective. Therefore, our research group has attempted to study potential anti-depressants with low side effects, high efficiency and reasonable price. In this study, we investigated the mechanisms of action of medicinal extracts, leaves of Mentha cordifolia Opiz ex Fresen and Senna siamea (Lam.) and whole plants of Centella asiatica (Lam.), using LAN-5 neuroblastoma cell line as a model. Extractions were done using ethanol and water. We focused our study on inhibitory effects of herb extracts on two mechanisms, mRNA expression of human dopamine transporter (hDAT), human serotonin transporter (hSERT) and human norepinephrine transporter (hNET) and activity of all three neurotransmitter transporters by uptake assay using neurotransmitter transporter uptake assay kit with the utilization of fluoxetine, desipramine and GBR12935 as the reference drugs. In addition, MTT assay was employed for toxicity study. We discovered that all of the extracts significantly reduced the expression of hDAT, hSERT and hNET genes in LAN-5 (P<0.05). The extract derived from M. cordifolia significantly inhibited the activity of DAT and SERT in LAN-5 (P<0.05) and all of extracts were not toxic to LAN-5. 2013-04-01T10:10:16Z 2013-04-01T10:10:16Z 2555 Thesis http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/30431 10.14457/CU.the.2012.1403 th http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.1403 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2680632 bytes application/pdf application/pdf จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Chulalongkorn University Library
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language Thai
topic ความซึมเศร้า
ยาแก้เศร้า
สารสกัดจากพืช
พืชสมุนไพร
Depression
Antidepressants
Plant extracts
Medicinal plants
spellingShingle ความซึมเศร้า
ยาแก้เศร้า
สารสกัดจากพืช
พืชสมุนไพร
Depression
Antidepressants
Plant extracts
Medicinal plants
ลักขิกา ธเนศผาติสุข
ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
description วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555
author2 เทวิน เทนคำเนาว์
author_facet เทวิน เทนคำเนาว์
ลักขิกา ธเนศผาติสุข
format Theses and Dissertations
author ลักขิกา ธเนศผาติสุข
author_sort ลักขิกา ธเนศผาติสุข
title ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
title_short ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
title_full ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
title_fullStr ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
title_full_unstemmed ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
title_sort ฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรในการต้านโรคซึมเศร้า : กลไกในระดับโมเลกุลผ่านตัวขนส่งสารสื่อประสาทชนิดโมโนเอมีน
publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
publishDate 2013
url http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/30431
http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.1403
_version_ 1724630207782977536