ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบอัตราการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate ในผู้ป่วยเด็กกลุ่มที่ได้รับรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก กับกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน รูปแบบการวิจัย: การวิจัยเชิงทดลอง วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วย...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Authors: วิภาวิน วัฒนะประการชัย, Wiphawin Watthanaprakarnchai, ปวีณา จึงสมประสงค์, Paweena Chungsomprasong, กาญจนา หวานสนิท, Kanchana Wansanit, สุธีรา พฤทธิ์ไพศาล, Suteera Phrudprisan, ศิรินธร ถือแก้ว, Sirinthorn Thou-Kaw, อัครินทร์ นิมมานิตย์, Akarin Nimmannit
Other Authors: มหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. โรงพยาบาลศิริราช
Format: Article
Language:Thai
Published: 2018
Subjects:
Online Access:https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/21953
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Mahidol University
Language: Thai
id th-mahidol.21953
record_format dspace
institution Mahidol University
building Mahidol University Library
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Mahidol University Library
collection Mahidol University Institutional Repository
language Thai
topic รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือ
การตรวจหัวใจเด็กด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก
ผู้ป่วยเด็ก
ยา Chloral Hydrate
Journal of Nursing Science
วารสารพยาบาลศาสตร์
Open Access article
spellingShingle รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือ
การตรวจหัวใจเด็กด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก
ผู้ป่วยเด็ก
ยา Chloral Hydrate
Journal of Nursing Science
วารสารพยาบาลศาสตร์
Open Access article
วิภาวิน วัฒนะประการชัย
Wiphawin Watthanaprakarnchai
ปวีณา จึงสมประสงค์
Paweena Chungsomprasong
กาญจนา หวานสนิท
Kanchana Wansanit
สุธีรา พฤทธิ์ไพศาล
Suteera Phrudprisan
ศิรินธร ถือแก้ว
Sirinthorn Thou-Kaw
อัครินทร์ นิมมานิตย์
Akarin Nimmannit
ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
description วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบอัตราการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate ในผู้ป่วยเด็กกลุ่มที่ได้รับรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก กับกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน รูปแบบการวิจัย: การวิจัยเชิงทดลอง วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี ที่มารับการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกที่โรงพยาบาลศิริราช เลือกกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 133 ราย สุ่มเข้าศึกษาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มควบคุม จำนวน 66 ราย ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน กลุ่มทดลองจำนวน 67 ราย ได้รับรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรงอกโดยให้ข้อมูลเสมือนการตรวจจริงผ่านกิจกรรมการเล่นและการเบี่ยงเบนความสนใจผู้ป่วยเด็ก แพทย์ผู้ตรวจเป็นผู้ประเมินผู้ป่วยเด็กในการได้รับยา chloral hydrate การวัดผลโดยเปรียบเทียบอัตราผู้ที่ได้รับยานอนหลับ ร่วมกับการประเมินเวลารวมที่ใช้ในการตรวจ ความพึงพอใจของแพทย์ พยาบาล และผู้ปกครอง วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบทางสถิติด้วย Pearson’s Chi-Square test ผลการวิจัย: พบว่าผู้ป่วยเด็กกลุ่มทดลองมีอัตราการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate และมีระยะเวลารวมในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) คะแนนความพึงพอใจในรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกของแพทย์ พยาบาล และผู้ปกครองในกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) สรุปและเสนอแนะ: รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกไม่เพียงช่วยลดการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate แต่ยังช่วยให้บุคลากรมีเวลาและมีประสิทธิภาพการดูแลมากกว่าตามมาตรฐานเดิม นอกจากนี้รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าวยังสามารถให้ข้อมูลการตรวจที่จำเป็น ลดความเสี่ยงจากการใช้ยา และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพการดูแลดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาลที่มีทรัพยากรบุคคลจำกัด
author2 มหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. โรงพยาบาลศิริราช
author_facet มหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. โรงพยาบาลศิริราช
วิภาวิน วัฒนะประการชัย
Wiphawin Watthanaprakarnchai
ปวีณา จึงสมประสงค์
Paweena Chungsomprasong
กาญจนา หวานสนิท
Kanchana Wansanit
สุธีรา พฤทธิ์ไพศาล
Suteera Phrudprisan
ศิรินธร ถือแก้ว
Sirinthorn Thou-Kaw
อัครินทร์ นิมมานิตย์
Akarin Nimmannit
format Article
author วิภาวิน วัฒนะประการชัย
Wiphawin Watthanaprakarnchai
ปวีณา จึงสมประสงค์
Paweena Chungsomprasong
กาญจนา หวานสนิท
Kanchana Wansanit
สุธีรา พฤทธิ์ไพศาล
Suteera Phrudprisan
ศิรินธร ถือแก้ว
Sirinthorn Thou-Kaw
อัครินทร์ นิมมานิตย์
Akarin Nimmannit
author_sort วิภาวิน วัฒนะประการชัย
title ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
title_short ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
title_full ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
title_fullStr ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
title_full_unstemmed ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate
title_sort ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา chloral hydrate
publishDate 2018
url https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/21953
_version_ 1763495941114953728
spelling th-mahidol.219532023-03-30T16:29:13Z ผลของรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกในผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ต่อการใช้ยา Chloral Hydrate Effect of Cooperative Protocol on Chloral Hydrate Usage in Aged 6 Months to 3 Years Pediatric Patients Receiving Transthoracic Echocardiographic Examination วิภาวิน วัฒนะประการชัย Wiphawin Watthanaprakarnchai ปวีณา จึงสมประสงค์ Paweena Chungsomprasong กาญจนา หวานสนิท Kanchana Wansanit สุธีรา พฤทธิ์ไพศาล Suteera Phrudprisan ศิรินธร ถือแก้ว Sirinthorn Thou-Kaw อัครินทร์ นิมมานิตย์ Akarin Nimmannit มหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. โรงพยาบาลศิริราช รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือ การตรวจหัวใจเด็กด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก ผู้ป่วยเด็ก ยา Chloral Hydrate Journal of Nursing Science วารสารพยาบาลศาสตร์ Open Access article วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบอัตราการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate ในผู้ป่วยเด็กกลุ่มที่ได้รับรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก กับกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน รูปแบบการวิจัย: การวิจัยเชิงทดลอง วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี ที่มารับการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกที่โรงพยาบาลศิริราช เลือกกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 133 ราย สุ่มเข้าศึกษาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มควบคุม จำนวน 66 ราย ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน กลุ่มทดลองจำนวน 67 ราย ได้รับรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรงอกโดยให้ข้อมูลเสมือนการตรวจจริงผ่านกิจกรรมการเล่นและการเบี่ยงเบนความสนใจผู้ป่วยเด็ก แพทย์ผู้ตรวจเป็นผู้ประเมินผู้ป่วยเด็กในการได้รับยา chloral hydrate การวัดผลโดยเปรียบเทียบอัตราผู้ที่ได้รับยานอนหลับ ร่วมกับการประเมินเวลารวมที่ใช้ในการตรวจ ความพึงพอใจของแพทย์ พยาบาล และผู้ปกครอง วิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบทางสถิติด้วย Pearson’s Chi-Square test ผลการวิจัย: พบว่าผู้ป่วยเด็กกลุ่มทดลองมีอัตราการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate และมีระยะเวลารวมในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) คะแนนความพึงพอใจในรูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกของแพทย์ พยาบาล และผู้ปกครองในกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .01) สรุปและเสนอแนะ: รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือในการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอกไม่เพียงช่วยลดการใช้ยานอนหลับ chloral hydrate แต่ยังช่วยให้บุคลากรมีเวลาและมีประสิทธิภาพการดูแลมากกว่าตามมาตรฐานเดิม นอกจากนี้รูปแบบการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าวยังสามารถให้ข้อมูลการตรวจที่จำเป็น ลดความเสี่ยงจากการใช้ยา และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพการดูแลดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาลที่มีทรัพยากรบุคคลจำกัด Purpose: To compare chloral hydrate utilization for transthoracic echocardiogram in pediatric patients whom receive cooperative protocol and whom receive routine nursing care. Designs: Experiment randomized controlled trial. Methods: We included 133 patients aged between 6 months to 3 years who underwent echocardiogram at Siriraj Hospital. The patients were randomized into 2 groups. The control group (n = 66) received routine nursing care. Displaying dramatic play and distracting pediatric patients appropriated with their ages was used as the cooperative protocol in the intervention group (n = 67). Cardiologists evaluated patients if they needed chloral hydrate sedation to complete examination. The using chloral hydrate sedation, processing times; satisfaction of responsible cardiologists, nurses and the parents were collected. Pearson’s Chi-Square test was used for data analysis. Main findings: In the interventional group, there were lower using rate of chloral hydrate sedation and shorter overall processing times (both p < .01). The satisfaction scores from cardiologists, nurses and parents in the interventional group were higher compared to the control group (p < .01). Conclusion and recommendations: The cooperative protocol is useful to reduce chloral hydrate sedation in children. Not only reducing the risk of sedation, but it also provides more time and staff efficiency than standard practice. In addition, the cooperative protocol could provide the necessary echocardiographic information. Reduced risk and more efficient utility will allow the better quality of care especially in hospitals with limited human resources. ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยพัฒนางานประจําสู่งานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 2018-08-07T08:55:49Z 2018-08-07T08:55:49Z 2561-08-07 2558 Article วารสารพยาบาลศาสตร์. ปีที่ 33, ฉบับที่ 2 ( เม.ย. - มิ.ย. 2558), 68-76 https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/21953 tha มหาวิทยาลัยมหิดล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล application/pdf