การสร้างและทดสอบเครื่องมือประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล
วัตถุประสงค์: เพื่อสร้างและทดสอบคุณภาพของเครื่องมือประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวคิดทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรม รูปแบบการวิจัย: การพัฒนาเครื่องมือ วิธีดำเนินการวิจัย: แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะพัฒนาเครื่...
Saved in:
Main Authors: | , , , , , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Article |
Language: | Thai |
Published: |
2018
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/22573 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | วัตถุประสงค์: เพื่อสร้างและทดสอบคุณภาพของเครื่องมือประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวคิดทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรม
รูปแบบการวิจัย: การพัฒนาเครื่องมือ
วิธีดำเนินการวิจัย: แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะพัฒนาเครื่องมือ และระยะทดสอบคุณภาพเครื่องมือกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ที่มีระดับคะแนนจากการคัดกรองด้วยแบบประเมินความทุกข์ทางจิตใจ ความเครียด ซึมเศร้าและวิตกกังวลอย่างน้อย 1 ด้านสูงกว่าปกติ ระยะที่ 1 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน ตอบแบบสอบถามปลายเปิดเพื่อวิเคราะห์ความเชื่อเกี่ยวข้องกับบททัศนคติต่อพฤติกรรม การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง และการรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรมในการนำไปสร้างแบบสอบถาม ระยะนี้วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 70 คน ตอบแบบสอบถามที่สร้างขึ้น นำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือด้วยการหาอำนาจจำแนกจากความแตกต่างของตัวแปรระหว่างกลุ่ม คะแนนสูง และกลุ่มคะแนนต่ำโดยใช้สถิติ t-test และวิเคราะห์หาความเชื่อมั่นของแบบสอบถามด้วยการทดสอบสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค
ผลการวิจัย : พบว่า แบบสอบถามที่สร้างขึ้นนี้ จำนวน 50 มี ข้อคำถามที่ใช้ได้จำนวน 41 ข้อ ลักษณะคำตอบเป็นมาตรวัดแบบ 2 ขั้วแบ่งเป็น 7 ระดับ ประกอบด้วยข้อคำถามความตั้งใจในการทำพฤติกรรมจำนวน 3 ข้อ ทัศนคติต่อพฤติกรรมจำนวน 19 ข้อ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงจำนวน 11 ข้อ และการรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรมจำนวน 8 ข้อ ความเชื่อมั่นขอแบบสอบถามอยู่ระหว่าง .65 - .96
สรุปและข้อเสนอแนะ: การศึกษาครั้งนี้เป็นหลักฐานในการนำทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรมมาใช้สร้างแบบสอบถามในการประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ การแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตอย่างไรก็ ตามแบบสอบถามนี้เป็นเครื่องมือใหม่ในบริบทของนักศึกษาพยาบาล อาจารย์และบุคคลากรทางสุขภาพจิต ควรได้มีการทดสอบคุณภาพของเครื่องมือซาํ้ ก่อนนำไปใช้ |
---|