การปรับปรุงสมบัติการทนแรงกระแทกของแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์ ด้วยยางธรรมชาติโดยกระบวนการหล่อ
ยางธรรมชาติจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่มีสมบัติเด่นหลายประการโดยเฉพาะสมบัติความยืดหยุ่น งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาและเตรียมแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์ทนแรงกระแทกแบบโปร่งใส โดยมีการนำเอายางธรรมชาติซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยมาใช้เป็นสารเติมแต่งเพื่อช่วยปรับปรุงสมบัติการทนแรงกระแทก แ...
Saved in:
Main Authors: | , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Article |
Language: | Thai |
Published: |
2017
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/3207 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | ยางธรรมชาติจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่มีสมบัติเด่นหลายประการโดยเฉพาะสมบัติความยืดหยุ่น งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาและเตรียมแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์ทนแรงกระแทกแบบโปร่งใส โดยมีการนำเอายางธรรมชาติซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยมาใช้เป็นสารเติมแต่งเพื่อช่วยปรับปรุงสมบัติการทนแรงกระแทก และความยืดหยุ่นของแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์แผ่นโคพอลิเมอร์ทนแรงกระแทกสามารถเตรียมขึ้นรูปได้ด้วยกระบวนการพอลิเมอไรเซชันแบบบัลค์ ผ่านเทคนิคการขึ้นรูปชิ้นงานแบบหล่อ ทำการศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเตรียมแผ่นโคพอลิเมอร์ เช่น อัตราส่วนของมอนอเมอร์และปริมาณยางธรรมชาติ ศึกษาสมบัติทางกายภาพและสมบัติเชิงกลของแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์ทนแรงกระแทกที่เตรียมได้จากการใช้ยางธรรมชาติเป็นสารเพิ่มการทนแรงกระแทก โดยพบว่าปริมาณเมทิลเมทาคริเลตที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมแผ่นโคพอลิเมอร์ คือ อัตราส่วนปริมาณเมทิลเมทาคริเลตร้อยละ 90 และ 80 โดยน้ำหนัก ต่อปริมาณสไตรีนร้อยละ 10 และ 20 โดยน้ำหนัก ปริมาณตัวริเริ่มปฏิกิริยาเปอร์ออกไซด์ และสารประกอบเอโซที่เหมาะสมคือ ร้อยละ 1.5 ถึง 2.0 โดยน้ำหนัก และปริมาณยางธรรมชาติที่ร้อยละ 2.0 โดยน้ำหนักให้ค่าการทนต่อแรงกระแทกสูงที่สุด ผลการทดลองแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการใช้ ยางธรรมชาติเป็นสารเสริมการทนแรงกระแทกในแผ่นสไตรีน-เมทิลเมทาคริเลตโคพอลิเมอร์ ซึ่งเป็นการนำเอาพอลิเมอร์ที่ได้จากธรรมชาติ และเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทยมาใช้งานทดแทนพอลิเมอร์ที่ได้จากการสังเคราะห์ อันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยต่อไปในอนาคต |
---|