ความชุกและความสัมพันธ์ระหว่างการทำกิจกรรมกับภาวะบกพร่องทางปัญญาในผู้สูงอายุ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและความสัมพันธ์ ระหว่างการทำกิจกรรมกับภาวะบกพร่องทางปัญญา ในผู้สูงอายุ ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 460 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิสองขั้นตอน คือ ตามพื้น...
Saved in:
Main Authors: | , , , , , , , , , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Original Article |
Language: | Thai |
Published: |
2021
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/63747 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวาง
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและความสัมพันธ์
ระหว่างการทำกิจกรรมกับภาวะบกพร่องทางปัญญา
ในผู้สูงอายุ ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่
ในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 460 คน
ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิสองขั้นตอน
คือ ตามพื้นที่และช่วงอายุ เครื่องมือที่ใช้คัดกรอง
ภาวะบกพร่องทางปัญญา คือ แบบทดสอบสมรรถภาพ
สมองเบื้องต้นฉบับภาษาไทย พ.ศ. 2545 (MMSE-Thai
2002) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Logistic Regression
หาความสัมพันธ์ระหว่างการทำกิจกรรมกับภาวะ
บกพร่องทางปัญญา ผลการศึกษาพบความชุกของ
ภาวะบกพร่องทางปัญญา ร้อยละ 18.5 เมื่อควบคุม
ตัวแปรกวนต่าง ๆ แล้ว พบว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่
80 ปีขึ้นไป (ORadj = 3.39, 95% CI: 1.16-9.92)
การมีกิจกรรมทางกาย (ORadj = 0.35, 95% CI:
0.15-0.80) และการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมสม่ำเสมอ
(ORadj = 0.39, 95% CI: 0.22-0.69) มีความสัมพันธ์
กับภาวะบกพร่องทางปัญญา ข้อเสนอแนะจากการ
ศึกษาคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการจัดระบบ
เฝ้าระวังภาวะบกพร่องทางปัญญาในผู้สูงอายุ เช่น
การคัดกรอง และควรส่งเสริมการจัดกิจกรรมทางกาย
เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน และมีกิจกรรมทาง
สังคมสำาหรับผู้สูงอายุในชุมชน เช่น กิจกรรมชมรม
งานประเพณี กิจกรรมอาสาสมัครช่วยเหลือในงาน
ต่าง ๆ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการ
เกิดภาวะบกพร่องทางปัญญาในผู้สูงอายุ |
---|