สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา

Background: Knee pain is a leading cause of functional impairment and decrlity of life among aged para rubber farmers in Thailand, Promoting self-ers and increasing role of health care workers in occupationalcritical issues in primary care.Objective: This study aimed to develop the supportive-educat...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Authors: ชนนท์ กองกมล, แสงอรุณ อิสระมาลัย, พรนิตย์ วรรธนพิสิฐกุล, กนกวรรณ หวนศรี
Other Authors: Faculty of Medicine (Family Medicine and Preventive Medicine)
Format: Technical Report
Language:Thai
Published: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2021
Subjects:
Online Access:http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13405
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Prince of Songkhla University
Language: Thai
id th-psu.2016-13405
record_format dspace
institution Prince of Songkhla University
building Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center
collection PSU Knowledge Bank
language Thai
topic ข้อเสื่อม
ผู้สูงอายุ สุขภาพและอนามั
เกษตรกร สุขภาพและอนามัย
spellingShingle ข้อเสื่อม
ผู้สูงอายุ สุขภาพและอนามั
เกษตรกร สุขภาพและอนามัย
ชนนท์ กองกมล
แสงอรุณ อิสระมาลัย
พรนิตย์ วรรธนพิสิฐกุล
กนกวรรณ หวนศรี
สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
description Background: Knee pain is a leading cause of functional impairment and decrlity of life among aged para rubber farmers in Thailand, Promoting self-ers and increasing role of health care workers in occupationalcritical issues in primary care.Objective: This study aimed to develop the supportive-educative care model as apractical model for aged para rubber farmers with knce OA.Methods: An action research approach was taken effort with the health care workers,including 10 community health volunteers and 30 aged para rubber farmers with knceosteoarthritis. Three parties on building the healthy public policy (professionals,decision makers, and community citizen), namely "Triangle that moves the mountain"and the Self-care deficit nursing theory were used as the theoretical foundations. Fourphases according to the action research cycle: the initial assessment, the developmentof the model, the application of the newly developed model, and the evaluation ofchange were conducted. Data were collected by focus group, personal interview andbrainstorming and analyzed using content analysis.Results: The supportive-educative care model comprises: (i) educative program forthe trainers (ii) goal-directed and self-care plan on ergonomic management andmuscle strengthening exercise for the aged individuals (ii) practical tool developmentfor home visiting program and (iv) supportive system for the professionalconsultation.Conclusion: The practical supportive-educative care model seems to fulfill the careneeds of aged para rubber farmers with knee OA and enhance their self-care. Inaddition, maximizing care competences of the health volunteers is achieved throughpartnerships of the community parties responding to the primary care.
author2 Faculty of Medicine (Family Medicine and Preventive Medicine)
author_facet Faculty of Medicine (Family Medicine and Preventive Medicine)
ชนนท์ กองกมล
แสงอรุณ อิสระมาลัย
พรนิตย์ วรรธนพิสิฐกุล
กนกวรรณ หวนศรี
format Technical Report
author ชนนท์ กองกมล
แสงอรุณ อิสระมาลัย
พรนิตย์ วรรธนพิสิฐกุล
กนกวรรณ หวนศรี
author_sort ชนนท์ กองกมล
title สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
title_short สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
title_full สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
title_fullStr สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
title_full_unstemmed สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
title_sort สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา
publisher มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
publishDate 2021
url http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13405
_version_ 1695734312561803264
spelling th-psu.2016-134052021-03-09T09:50:17Z สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา Three Parties Engagement on Occupational Health Development for Aged Para Rubber Farmers with Knee Osteoarthritis รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ สามประสานเพื่อการพัฒนาอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา ชนนท์ กองกมล แสงอรุณ อิสระมาลัย พรนิตย์ วรรธนพิสิฐกุล กนกวรรณ หวนศรี Faculty of Medicine (Family Medicine and Preventive Medicine) คณะแพทยศาสตร์ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ ภาควิชากายภาพบำบัด Faculty of Nursing (Division of Community Nurse Practitioner) คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน ข้อเสื่อม ผู้สูงอายุ สุขภาพและอนามั เกษตรกร สุขภาพและอนามัย Background: Knee pain is a leading cause of functional impairment and decrlity of life among aged para rubber farmers in Thailand, Promoting self-ers and increasing role of health care workers in occupationalcritical issues in primary care.Objective: This study aimed to develop the supportive-educative care model as apractical model for aged para rubber farmers with knce OA.Methods: An action research approach was taken effort with the health care workers,including 10 community health volunteers and 30 aged para rubber farmers with knceosteoarthritis. Three parties on building the healthy public policy (professionals,decision makers, and community citizen), namely "Triangle that moves the mountain"and the Self-care deficit nursing theory were used as the theoretical foundations. Fourphases according to the action research cycle: the initial assessment, the developmentof the model, the application of the newly developed model, and the evaluation ofchange were conducted. Data were collected by focus group, personal interview andbrainstorming and analyzed using content analysis.Results: The supportive-educative care model comprises: (i) educative program forthe trainers (ii) goal-directed and self-care plan on ergonomic management andmuscle strengthening exercise for the aged individuals (ii) practical tool developmentfor home visiting program and (iv) supportive system for the professionalconsultation.Conclusion: The practical supportive-educative care model seems to fulfill the careneeds of aged para rubber farmers with knee OA and enhance their self-care. Inaddition, maximizing care competences of the health volunteers is achieved throughpartnerships of the community parties responding to the primary care. ปวดเข่าเป็นปัญหาสำคัญที่นำไปสู่การลดลงของความสามารถการช่วยเหลือตนเองและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุข้อขาเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยารพาราในประเทศไทย การส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเองของแรงงานสูงอายุกลุ่มนี้และเพิ่มบทบาทของบุคลากรด้านสาธารณสุข เพื่อพัฒนางานอาชีวอนามัยซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญในหน่วยบริการปฐมภูมิการวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลตนเองด้านอาชีวอนามัยสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพาราโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของภาคีบริการสุขภาพ ภาคีชุมชน และภาคีทองถิ่น ผู้ร่วมวิจัยคือ อาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 10 คน และผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา 40 คน โดยสนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายทั้งภาคีบริการสุขภาพ ภาคีชุมชน และภาคีท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาภายใต้กรอบแนวคิด"สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา" และทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเอง กระบวนการวิจัย ประกอบด้วย 4ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การวางแผน การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมอาชีวอนามัย การนำรูปแบบการดูแลตนเองต้านอาชีวอนามัยสู่การลงมือปฏิบัติ และการประเมินผลการเปลี่ยนแปลง เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์ และการระดมสมอง และใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาในการวิเคราะห์ข้อมูลผลการวิจัยพบว่า ระบบการดูแลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ด้านอาชีวอนามัยที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา ประกอบด้วย 1) โปรแกรมการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครอาชีวอนามัย 2) การตั้งเป้าหมายและออกแบบแผนการดูแลตนเองในการจัดการท่าทางการทำงานและการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ 3) การออกแบบเครื่องมือที่ง่ายต่อการนำไปใช้เพื่อติดตามการปฏิบัติโดยการเยี่ยมบ้าน และ 4) มีะบบการสนับสนุนโดยการเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขระบบการดูแลแบบสนับสนุนและให้ความรู้นี้สามารถนำไปใช้ได้จริงและตอบสนองความจำเป็นในการดูแลตนเองสำหรับผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา รวมทั้งสามารถส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเองแก่ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ ซึ่งให้ข้อเสนอแนะว่าการเสริมศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขผ่านการมีส่วนร่วมในการทำงานกับภาคีที่เกี่ยวข้องเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จ 2021-03-09T09:39:31Z 2021-03-09T09:39:31Z 2560 Technical Report http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13405 th application/pdf มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์