โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557
ประเทศไทยมีพื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉพาะที่นา ที่พืชไร่ ที่ไม้ผลและไม้ยืนต้น ที่สวนผักไม้ดอก ประมาณ ๑๔๙ ล้านไร่ มีพื้นที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในแต่ละปีแต่สถิติการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรกับมีปริมาณสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีกับผลผลิ...
Saved in:
Main Authors: | , , |
---|---|
Format: | Other |
Language: | th_TH |
Published: |
สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง กรมส่งเสริมการเกษตร
2015
|
Subjects: | |
Online Access: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15208 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Prince of Songkhla University |
Language: | th_TH |
id |
th-psu.2016-15208 |
---|---|
record_format |
dspace |
spelling |
th-psu.2016-152082021-05-17T11:22:12Z โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 วิมล, สิงหะพล อานนท์, คงนุ่ม สัมฤทธิ์, ฤทธิ์ชู ความไม่มั่นคงทางอาหาร ประเทศไทยมีพื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉพาะที่นา ที่พืชไร่ ที่ไม้ผลและไม้ยืนต้น ที่สวนผักไม้ดอก ประมาณ ๑๔๙ ล้านไร่ มีพื้นที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในแต่ละปีแต่สถิติการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรกับมีปริมาณสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีกับผลผลิตต่อไร่ของสินค้าเกษตรที่สำคัญและมีเนื้อที่เพาะปลูกมาก ๔ อันดับแรก คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พบว่า พืชส่วนใหญ่มีผลผลิตต่อไร่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยโดยข้าวมีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ในปี ๒๕๕๕ มีการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตร ๑๓๔,๓๗๗ ตัน มีมูลค่า ๑๙,๓๕๗ ล้านบาท เป็นสารกำจัดวัชพืชมากที่สุด มีผลทำให้อุตสาหกรรมเคมีทางการเกษตรเติบโตอย่างมากเกษตรกรเข้าถึงสารเคมีได้ง่ายและมีการใช้มากเกินความพอดี (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, ๒๕๕๖) ข้อมูลสำนักควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี ๒๕๕๔ จากการตรวจเลือดเกษตรกร ๕๓๓,๕๒๔ คน ใน ๗๔ จังหวัด พบว่า อยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยร้อยละ ๓๒ และสรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๕ - ๒๕๕๔ เฉลี่ยปีละ ๑,๘๔๐ ราย และ ปี ๒๕๕๔ มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม (ไม่รวมสาเหตุการฆ่าตัวตาย) จำนวน ๒,๐๔๖ ราย มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรมร้อยละ ๔๑.๐๖ ซึ่งการใช้สารเคมีทางการเกษตรนอกจากเป็นต้นทุนทางการเกษตรแล้วยังมีต้นทุนด้านสาธารณสุขที่ตามมา ภายหลังรัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการดูแลจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสูญเสียภาษีที่ควรจะได้รับจากการเติบโตของอุตสาหกรรมสารเคมีเกษตรนี้อีกด้วย แม้ว่าประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรและอาหารเป็นอันดับต้นของโลกอาจไม่ประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร แต่มีความเสี่ยงกับความปลอดภัยของอาหารและความมั่นคงของภาคการเกษตรอันเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกร รวมกับปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นภาพเชิงลบของภาคการเกษตรที่เป็นปัจจัยทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่และแรงงานภาคการเกษตรมีแนวโน้มลดลง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและประชาชนชาวไทยผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรในชีวิตประจำวัน และยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้สู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมีทางการเกษตรควรจัดทำโครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมี 2015-10-09T03:27:19Z 2021-05-17T11:22:11Z 2015-10-09T03:27:19Z 2021-05-17T11:22:11Z 2557 Other http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15208 th_TH application/msword สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง กรมส่งเสริมการเกษตร |
institution |
Prince of Songkhla University |
building |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
continent |
Asia |
country |
Thailand Thailand |
content_provider |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
collection |
PSU Knowledge Bank |
language |
th_TH |
topic |
ความไม่มั่นคงทางอาหาร |
spellingShingle |
ความไม่มั่นคงทางอาหาร วิมล, สิงหะพล อานนท์, คงนุ่ม สัมฤทธิ์, ฤทธิ์ชู โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
description |
ประเทศไทยมีพื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉพาะที่นา ที่พืชไร่ ที่ไม้ผลและไม้ยืนต้น ที่สวนผักไม้ดอก ประมาณ ๑๔๙ ล้านไร่ มีพื้นที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในแต่ละปีแต่สถิติการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรกับมีปริมาณสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีกับผลผลิตต่อไร่ของสินค้าเกษตรที่สำคัญและมีเนื้อที่เพาะปลูกมาก ๔ อันดับแรก คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พบว่า พืชส่วนใหญ่มีผลผลิตต่อไร่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยโดยข้าวมีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ในปี ๒๕๕๕ มีการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตร ๑๓๔,๓๗๗ ตัน มีมูลค่า ๑๙,๓๕๗ ล้านบาท เป็นสารกำจัดวัชพืชมากที่สุด มีผลทำให้อุตสาหกรรมเคมีทางการเกษตรเติบโตอย่างมากเกษตรกรเข้าถึงสารเคมีได้ง่ายและมีการใช้มากเกินความพอดี (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, ๒๕๕๖)
ข้อมูลสำนักควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี ๒๕๕๔ จากการตรวจเลือดเกษตรกร ๕๓๓,๕๒๔ คน ใน ๗๔ จังหวัด พบว่า อยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยร้อยละ ๓๒ และสรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๕ - ๒๕๕๔ เฉลี่ยปีละ ๑,๘๔๐ ราย และ ปี ๒๕๕๔ มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม (ไม่รวมสาเหตุการฆ่าตัวตาย) จำนวน ๒,๐๔๖ ราย มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรมร้อยละ ๔๑.๐๖ ซึ่งการใช้สารเคมีทางการเกษตรนอกจากเป็นต้นทุนทางการเกษตรแล้วยังมีต้นทุนด้านสาธารณสุขที่ตามมา ภายหลังรัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการดูแลจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสูญเสียภาษีที่ควรจะได้รับจากการเติบโตของอุตสาหกรรมสารเคมีเกษตรนี้อีกด้วย แม้ว่าประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรและอาหารเป็นอันดับต้นของโลกอาจไม่ประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร แต่มีความเสี่ยงกับความปลอดภัยของอาหารและความมั่นคงของภาคการเกษตรอันเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกร รวมกับปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นภาพเชิงลบของภาคการเกษตรที่เป็นปัจจัยทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่และแรงงานภาคการเกษตรมีแนวโน้มลดลง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและประชาชนชาวไทยผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรในชีวิตประจำวัน และยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้สู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมีทางการเกษตรควรจัดทำโครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมี |
format |
Other |
author |
วิมล, สิงหะพล อานนท์, คงนุ่ม สัมฤทธิ์, ฤทธิ์ชู |
author_facet |
วิมล, สิงหะพล อานนท์, คงนุ่ม สัมฤทธิ์, ฤทธิ์ชู |
author_sort |
วิมล, สิงหะพล |
title |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
title_short |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
title_full |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
title_fullStr |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
title_full_unstemmed |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
title_sort |
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 |
publisher |
สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง กรมส่งเสริมการเกษตร |
publishDate |
2015 |
url |
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15208 |
_version_ |
1703979100952068096 |