การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา
การทดสอบการปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัย ปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน มีวัตถุประสงค์ เพื่อจะได้ทราบข้อมูล การปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีในและนอกโรงเรือนตาข่าย เป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษ ในช่วงฤดูฝน สำหรับใช้เป็นข้อมูลพิจารณาทางเลือกปลูกผัก สำหรับเกษตรกรในแถบจังหวัดสงขลา การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 งา...
Saved in:
Main Authors: | , , , |
---|---|
Format: | Article |
Language: | th_TH |
Published: |
กรมวิชาการเกษตร
2016
|
Subjects: | |
Online Access: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15589 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Prince of Songkhla University |
Language: | th_TH |
id |
th-psu.2016-15589 |
---|---|
record_format |
dspace |
spelling |
th-psu.2016-155892021-05-17T11:34:44Z การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา วราวุธ, ชูธรรมธรัช ปฐม, มณีนิตย์ จารุ, ไชยแขวง วิทยวัฒน์, กุญชร ณ อยุธยา ความไม่มั่นคงทางอาหาร การทดสอบการปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัย ปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน มีวัตถุประสงค์ เพื่อจะได้ทราบข้อมูล การปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีในและนอกโรงเรือนตาข่าย เป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษ ในช่วงฤดูฝน สำหรับใช้เป็นข้อมูลพิจารณาทางเลือกปลูกผัก สำหรับเกษตรกรในแถบจังหวัดสงขลา การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 งาน คือ ทดสอบการปลูกบร็อคโคลี่ พันธุ์ท็อปกรีนในและนอกโรงเรือนตาข่ายและทดสอบการปลูกกะหล่ำปลี พันธุ์ 60 วัน ในโรงเรือนตาข่ายและนอกโรงเรือน การทดสอบดำเนินงานที่แปลงเกษตรกร ตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2541 โรงเรือนมีขนาด 250 ตารางเมตร ปลูกชนิดละ 4 แปลง (แปลงขนาด 1.2 x 9.5 ม.) การปลูกทั้งบร็อกโคลี่และกะหล่ำปลี ใช้ระยะปลูก 45 x 50 ซม. เปรียบเทียบผลผลิต รายได้ ผลการทดสอบพบว่าการปลูกบร็อคโคลี่ในโรงเรือนตาข่ายในช่วงฤดูฝนได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,602 กก./ไร่ สูงกว่าการปลูกนอกโรงเรือน ซึ่งได้ผลผลิตเฉลี่ยเพียง 1,192 กก./ไร่ ต่ไม่แตกต่างกันทางสถิติและการปลูกในโรงเรือนมีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียจากดอกเน่า ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย 14-26 % งน้อยกว่าการปลุกนอกโรงเรือนที่มีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียจากดอกเน่าสูงถึง 41 % สำหรับการเปรียบเทียบผลผลิตพันธุ์ท็อป กรีน และพันธ์วาย ที่ปลูกในโรงเรือนได้รับผลผลิตเฉลี่ยใกล้เคียงกันทั้ง 2 พันธุ์ คือ 1,602 และ 1,456 กก./ไร่ สำหรับปลูกในและนอกโรงเรือนตามลำดับ แต่ค่าวิเคราะห์ทางสถิติไม่มีความแตกต่างกันทั้งสองงานทดสอบ จากผลการทดสอบพอสรุปได้ว่าการปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีในโรงเรือนช่วงฤดูฝนได้รับผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าการปลูกนอก โรงเรือน และช่วงที่เหมาะสมสำหรับการปลูก บร็อคโคลี่ หรือกระหล่ำดอกและกะหล่ำปลี ระหว่างช่วงฤดูฝน ในแถบจังหวัดสงขลา 2016-01-15T04:04:01Z 2021-05-17T11:34:44Z 2016-01-15T04:04:01Z 2021-05-17T11:34:44Z 2543 Article http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15589 th_TH application/vnd.openxmlformats-officedocument.wordprocessingml.document กรมวิชาการเกษตร |
institution |
Prince of Songkhla University |
building |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
continent |
Asia |
country |
Thailand Thailand |
content_provider |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
collection |
PSU Knowledge Bank |
language |
th_TH |
topic |
ความไม่มั่นคงทางอาหาร |
spellingShingle |
ความไม่มั่นคงทางอาหาร วราวุธ, ชูธรรมธรัช ปฐม, มณีนิตย์ จารุ, ไชยแขวง วิทยวัฒน์, กุญชร ณ อยุธยา การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
description |
การทดสอบการปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัย ปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน มีวัตถุประสงค์ เพื่อจะได้ทราบข้อมูล การปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีในและนอกโรงเรือนตาข่าย เป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษ ในช่วงฤดูฝน สำหรับใช้เป็นข้อมูลพิจารณาทางเลือกปลูกผัก สำหรับเกษตรกรในแถบจังหวัดสงขลา การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 งาน คือ ทดสอบการปลูกบร็อคโคลี่ พันธุ์ท็อปกรีนในและนอกโรงเรือนตาข่ายและทดสอบการปลูกกะหล่ำปลี พันธุ์ 60 วัน ในโรงเรือนตาข่ายและนอกโรงเรือน การทดสอบดำเนินงานที่แปลงเกษตรกร ตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2541 โรงเรือนมีขนาด 250 ตารางเมตร ปลูกชนิดละ 4 แปลง (แปลงขนาด 1.2 x 9.5 ม.) การปลูกทั้งบร็อกโคลี่และกะหล่ำปลี ใช้ระยะปลูก 45 x 50 ซม. เปรียบเทียบผลผลิต รายได้ ผลการทดสอบพบว่าการปลูกบร็อคโคลี่ในโรงเรือนตาข่ายในช่วงฤดูฝนได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,602 กก./ไร่ สูงกว่าการปลูกนอกโรงเรือน ซึ่งได้ผลผลิตเฉลี่ยเพียง 1,192 กก./ไร่ ต่ไม่แตกต่างกันทางสถิติและการปลูกในโรงเรือนมีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียจากดอกเน่า ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย 14-26 % งน้อยกว่าการปลุกนอกโรงเรือนที่มีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียจากดอกเน่าสูงถึง 41 % สำหรับการเปรียบเทียบผลผลิตพันธุ์ท็อป กรีน และพันธ์วาย ที่ปลูกในโรงเรือนได้รับผลผลิตเฉลี่ยใกล้เคียงกันทั้ง 2 พันธุ์ คือ 1,602 และ 1,456 กก./ไร่ สำหรับปลูกในและนอกโรงเรือนตามลำดับ แต่ค่าวิเคราะห์ทางสถิติไม่มีความแตกต่างกันทั้งสองงานทดสอบ จากผลการทดสอบพอสรุปได้ว่าการปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีในโรงเรือนช่วงฤดูฝนได้รับผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าการปลูกนอก โรงเรือน และช่วงที่เหมาะสมสำหรับการปลูก บร็อคโคลี่ หรือกระหล่ำดอกและกะหล่ำปลี ระหว่างช่วงฤดูฝน ในแถบจังหวัดสงขลา |
format |
Article |
author |
วราวุธ, ชูธรรมธรัช ปฐม, มณีนิตย์ จารุ, ไชยแขวง วิทยวัฒน์, กุญชร ณ อยุธยา |
author_facet |
วราวุธ, ชูธรรมธรัช ปฐม, มณีนิตย์ จารุ, ไชยแขวง วิทยวัฒน์, กุญชร ณ อยุธยา |
author_sort |
วราวุธ, ชูธรรมธรัช |
title |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
title_short |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
title_full |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
title_fullStr |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
title_full_unstemmed |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
title_sort |
การทดสอบปลูกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลีเป็นผักอนามัยปลอดภัยสารพิษในช่วงฤดูฝน จังหวัดสงขลา |
publisher |
กรมวิชาการเกษตร |
publishDate |
2016 |
url |
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15589 |
_version_ |
1703979378319294464 |