การปล้นและลักกระบือในทุ่งรังสิต : ภาพสะท้อนการเสื่อมคลายของระบบอุปถัมภ์แบบนักเลง

การขยายตัวของเศรษฐกิจแบบส่งออกโดยมีข้าวเป็นสินค้าหลัก ทำให้เกิดโครงการพัฒนาที่ดินครั้งสำคัญในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง สมัยรัชกาลที่ 5 คือการขุดคลองและบุกเบิกที่นาในโครงการรังสิต ซึ่งก่อให้เกิดการอพยพสู่พื้นที่นี้โดยผู้คนหลากหลายฐานะและชาติพันธุ์ ท่ามกลางการระดมทรัพยากรทางเศรษฐกิจในการผลิตข้าวทั้งในรูปเ...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: นนทพร อยู่มั่งมี
Other Authors: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะอักษรศาสตร์
Format: Article
Language:Thai
Published: คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2010
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/13812
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
Description
Summary:การขยายตัวของเศรษฐกิจแบบส่งออกโดยมีข้าวเป็นสินค้าหลัก ทำให้เกิดโครงการพัฒนาที่ดินครั้งสำคัญในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง สมัยรัชกาลที่ 5 คือการขุดคลองและบุกเบิกที่นาในโครงการรังสิต ซึ่งก่อให้เกิดการอพยพสู่พื้นที่นี้โดยผู้คนหลากหลายฐานะและชาติพันธุ์ ท่ามกลางการระดมทรัพยากรทางเศรษฐกิจในการผลิตข้าวทั้งในรูปเงินตราและแรงงาน ได้เพิ่มคดีและความรุนแรงของการปล้นสะดม โดยเฉพาะการปล้นและลักกระบือ ซึ่งกลายเป็นทรัพย์สินที่มูลค่าทางเศรษฐกิจสูง การพิจารณาถึงลักษณะคดีและการปล้นสะดมกระบือที่เกิดขึ้นในพื้นที่แถบนี้ จะเห็นได้ถึงความเสื่อมคลายของความสัมพันธ์ทางสังคมและระบบอุปถัมภ์ในยุคเศรษฐกิจแบบพอยังชีพ สู่สภาพและระบบสังคมเฉพาะของพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้ ซึ่งได้เกิดระบบอุปถัมภ์แบบใหม่ ทั้งที่เป็นลักษณะเฉพาะในแต่ละกลุ่มอพยพ ที่เกิดจากระบบเช่านา จากความคุ้มครองของบริษัทเจ้าของสัมปทาน รวมถึงการจัดการโดยระบบราชการและกฎหมาย ขณะที่บทบาทของนักเลงที่มีความสำคัญสูงในระบบสังคมแบบเดิมเริ่มหมดพลัง และกลายเป็นผู้สร้างความเดือดร้อนไปในที่สุด