ประสิทธิภาพทางด้านโครงสร้างของอาคารในเขตการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การวิจัยในเรื่องประสิทธิภาพทางโครงสร้างของอาคารตามคณะต่างๆ ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่สองปีขึ้นไป ได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบโครงสร้างและปัญหาอันเกี่ยวกับการทรุดตัวของอาคาร ตลอดถึงการแตกร้าว อันเป็นเหตุให้เกิดการเสียหายแก่ตัวอาคาร และอาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้อาคาร...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Authors: นิวัตต์ ดารานันท์, ทักษิณ เทพชาตรี, ต่อตระกูล ยมนาค
Other Authors: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
Format: Technical Report
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2006
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/2236
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
Description
Summary:การวิจัยในเรื่องประสิทธิภาพทางโครงสร้างของอาคารตามคณะต่างๆ ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่สองปีขึ้นไป ได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบโครงสร้างและปัญหาอันเกี่ยวกับการทรุดตัวของอาคาร ตลอดถึงการแตกร้าว อันเป็นเหตุให้เกิดการเสียหายแก่ตัวอาคาร และอาจจะเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้อาคาร รวมทั้งการทำข้อเสนอแนะต่อทางมหาวิทยาลัย เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขอาคารที่มีปัญหาในด้านโครงสร้างตามลำดับความสำคัญของปัญหา คณะผู้วิจัยได้ทำแบบฟอร์มสำหรับใช้ในการตรวจสอบและเก็บข้อมูลทางด้านประสิทธิภาพของโครงสร้างของอาคารประเภทห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องธุรการ ห้องพักอาศัย ซึ่งอยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบของโครงการวิจัยนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่า ความเสียหายส่วนใหญ่ของอาคารในเขตการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ 1. การแตกร้าวของผนังระหว่างผนังกับเสา ผนังกับคาน และบริเวณวงกบประตูหน้าต่าง 2. การรั่วซึมของน้ำฝนผ่านเคร่า และฝ้าเพดาน 3. การทรุดของพื้นทางเท้ารอบบริเวณอาคาร 4. พื้นชั้นล่างในตัวอาคารทรุดเป็นแอ่งตรงกลาง 5. การแตกร้าวของโครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณชานพัก 6. ปูนฉาบกระเทาะหลุด 7. การทรุดของอาคารข้างเคียง เนื่องจากการต่อเติมภายหลังและใช้เข็มยาวไม่เท่ากัน อนึ่ง คณะผู้วิจัยได้ทำข้อเสนอแนะที่สำคัญ เพื่อป้องกันมิให้การเสียหายดังกล่าวได้เกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยได้กล่าวไว้อย่างละเอียดในบทสรุปของงานวิจัยนี้