การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ

วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: นภสร โกวรรธนะกุล
Other Authors: รัชทิน จันทร์เจริญ
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2017
Subjects:
Online Access:http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52795
http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.1820
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
id th-cuir.52795
record_format dspace
spelling th-cuir.527952019-07-09T02:26:28Z การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ Development of a three degrees of freedom delta robot นภสร โกวรรธนะกุล รัชทิน จันทร์เจริญ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์ หุ่นยนต์ Robots วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556 วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาและพัฒนาหุ่นยนต์โครงสร้างขนานแบบเดลต้า ที่มีองศาอิสระ เท่ากับ 3 แบบเลื่อนที่ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการวิจัยทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์ ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์และโครงสร้างระบบควบคุมแบบเปิด โดยหุ่นยนต์ต้องการที่ว่างในการติดตั้งขนาด 650x650x800 ลูกบาศก์มิลลิเมตร และมีปริมาตรในการทำงานขนาด 300x350x375 ลูกบาศก์มิลลิเมตร ใช้มอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวรทั้งหมด 3 ตัว ขนาดกำลังขับตัวละ 6 วัตต์ และวัดตำแหน่งผ่านตัววัดระยะที่มีความละเอียด 2500 พลัลส์ต่อรอบ ส่งผลให้หุ่นยนต์มีความแม่นยำสูงสุด 0.5 มิลลิเมตร ความแม่นตรงสูงสุด 8.1 มิลลิเมตร และความละเอียดสูงสุด 0.04 มิลลิเมตร ระบบควบคุมและอุปกรณ์ขยายกำลัง สามารถทำงานที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 10 กิโลเฮิร์ต หุ่นยนต์ได้ทดสอบทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย เครื่องสร้างสัญญาณลูกคลื่นด้วยมือ เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานเบื้องต้นของหุ่นยนต์ และกล้องดิจิตอล เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์วัดตำแหน่งของวัตถุในพิกัดทำงาน ในวิทยานิพนธ์นี้ ได้นำหุ่นยนต์ไปทดสอบการทำงานเพื่อควบคุมให้ปลายแขนอยู่เหนือตำแหน่งเป้าหมายที่มีรูปร่าง สี และขนาดที่กำหนด โดยบังคับหุ่นยนต์ผ่านทางเครื่องสร้างสัญญาณลูกคลื่นด้วยมือ ผลการทดสอบ พบว่า หุ่นยนต์สามารถทำงานตามที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ The purpose of thesis is to study and develop a parallel delta robot with three pure translation degrees of freedom. The robot is designed to be a research robot that works with human and controlled by open architecture controller. The Robot requires installation space 65x65x80 cm3 while its workspace is 30x35x37.5 cm3. This robot is driven by three 6 W permanent magnet DC motor, which their power consumption is quite low, and sensed its end point position by three 2500 ppr incremental encoders. The resulting accuracy, repeatability and resolution are 8.1, 0.5 and 0.04 mm. respectively. The servoing rate of the controller and amplifier is up to 10 kHz. Furthermore, the robot has been tested with various equipments including manual pulse generator and digital camera. In the thesis, the robot has demonstrated that it can control position of its end effector to be on the targets that are defined by shape, size and color. 2017-04-25T08:00:33Z 2017-04-25T08:00:33Z 2556 Thesis http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52795 10.14457/CU.the.2013.1820 th http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.1820 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย application/pdf จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Chulalongkorn University Library
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language Thai
topic หุ่นยนต์
Robots
spellingShingle หุ่นยนต์
Robots
นภสร โกวรรธนะกุล
การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
description วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556
author2 รัชทิน จันทร์เจริญ
author_facet รัชทิน จันทร์เจริญ
นภสร โกวรรธนะกุล
format Theses and Dissertations
author นภสร โกวรรธนะกุล
author_sort นภสร โกวรรธนะกุล
title การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
title_short การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
title_full การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
title_fullStr การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
title_full_unstemmed การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
title_sort การพัฒนาหุ่นยนต์เดลต้าแบบสามองศาอิสระ
publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
publishDate 2017
url http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/52795
http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.1820
_version_ 1724629845851242496