ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน รูปแบบการวิจัย: การวิจัยทดลอง วิธีดำเนินการวิจัย: ศึกษากลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน 60 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่ม...
Saved in:
Main Authors: | , , , , , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Article |
Language: | Thai |
Published: |
2019
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/48029 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน
รูปแบบการวิจัย: การวิจัยทดลอง
วิธีดำเนินการวิจัย: ศึกษากลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน 60 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 ราย กลุ่มทดลองได้รับการดูแลตามปกติร่วมกับโปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหาร กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติเท่านั้น เครื่องมือที่ใช้ คือ โปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารระยะเวลา 8 สัปดาห์ มีกิจกรรมกลุ่ม 4 ครั้ง และติดตามทางโทรศัพท์ 1 ครั้ง เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามก่อนทดลอง หลังทดลอง (สัปดาห์ที่ 4) และระยะติดตามผล (สัปดาห์ที่ 8) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ
ผลการวิจัย: พฤติกรรมการบริโภคอาหาร แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (F(1, 58) = 38.096, p < .001, F(1, 58) = 26.374, p < .001 และ F(1, 58) = 26.555, p < .001)
สรุปและข้อเสนอแนะ: โปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารนี้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานได้ และยังทำให้มีความมั่นใจในการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับภาวะเสี่ยงสูงต่อเบาหวานของตนเอง รวมทั้งมีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพดีกว่ากลุ่มควบคุม ดังนั้นพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนสามารถนำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภคของกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน เพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคเบาหวานในอนาคต |
---|