แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อลดการคั่งค้างของเสมหะในผู้ป่วยเด็กวัยรุ่นที่เป็นโรคหลอดลมโป่งพอง
วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อ พัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อลดการคั่งค้าง ของเสมหะในผู้ป่วยเด็กวัยรุ่นที่เป็นโรคหลอดลมโป่งพอง เนื่องจากหากปล่อยให้เกิดการคั่งค้าง ของเสมหะจะทำให้ขัดขวางการแลกเปลี่ยนก๊าซ ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะพร่องออกซิเจน และอาจเสีย ชีวิตได้ ในการศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการทบทวนอย่างเป...
Saved in:
Main Authors: | , , , , , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Article |
Language: | Thai |
Published: |
2020
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/52547 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อ พัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อลดการคั่งค้าง
ของเสมหะในผู้ป่วยเด็กวัยรุ่นที่เป็นโรคหลอดลมโป่งพอง เนื่องจากหากปล่อยให้เกิดการคั่งค้าง
ของเสมหะจะทำให้ขัดขวางการแลกเปลี่ยนก๊าซ ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะพร่องออกซิเจน และอาจเสีย
ชีวิตได้ ในการศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการทบทวนอย่างเป็นระบบและกระบวนการพัฒนาการ
ปฏิบัติการพยาบาลโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งมีงานวิจัยและบทความทางวิชาการที่สัมพันธ์
กับการลดการคั่งค้างของเสมหะในผู้ป่วยเด็กวัยรุ่นที่เป็นโรคหลอดลมโป่งพองทั้งหมด 25 เรื่อง
แนวปฏิบัติการพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ได้รับการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่านที่มีความ
เชี่ยวชาญในสาขากุมารเวชศาสตร์และสาขาการพยาบาลเด็ก ในเรื่องความถูกต้องของเนื้อหา
ความตรงกับปัญหาทางคลินิกที่ต้องการแก้ไข ความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะนำไปใช้ และแนว
โน้มหรือความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติ แนวปฏิบัติการพยาบาลนี้ประกอบด้วย 1)
การประเมินความสามารถในการไอ 2) การประเมินอาการทางคลินิก 3) การประเมินความ
เหนียวของเสมหะ 4) การประเมินสารน้ำที่ผู้ป่วยได้รับ 5) การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำอย่าง
เพียงพอตามแผนการรักษาของแพทย์ 6) การเลือกใช้วิธีระบายเสมหะ และ 7) การประเมิน
ประสิทธิภาพในการระบายเสมหะ การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าควรนำแนวปฏิบัติการพยาบาลนี้
ไปทดลองใช้ในหน่วยงาน โดยมีการประเมินและติดตามผล ตลอดจนดัดแปลงและปรับปรุง
แนวปฏิบัติการพยาบาลให้เหมาะสม |
---|