การสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนเมืองภายใต้มาตรฐานการจัดระบบบริการปฐมภูมิ
วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการเข้าถึงบริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพภายใต้มาตรฐาน การจัดระบบบริการปฐมภูมิในการประกันสุขภาพถ้วนหน้าระหว่างประชากรทั่วไปและลูกจ้างประจำ ของรัฐ รูปแบบการศึกษาเป็นการศึกษาวิจัยจากข้อมูลย้อนหลังจากรายงานการศึกษาเชิงสำรวจของนักศึกษา หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ภาควิชาพยาบาล...
Saved in:
Main Authors: | , , , , , , , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Article |
Language: | Thai |
Published: |
2020
|
Subjects: | |
Online Access: | https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/52608 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Mahidol University |
Language: | Thai |
Summary: | วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการเข้าถึงบริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพภายใต้มาตรฐาน
การจัดระบบบริการปฐมภูมิในการประกันสุขภาพถ้วนหน้าระหว่างประชากรทั่วไปและลูกจ้างประจำ
ของรัฐ รูปแบบการศึกษาเป็นการศึกษาวิจัยจากข้อมูลย้อนหลังจากรายงานการศึกษาเชิงสำรวจของนักศึกษา
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจำนวน 127 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่าง
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) ประชากรทั่วไปในชุมชนประดิษฐ์โทรการ (พหลโยธิน 47-49) ซึ่งส่วนใหญ่
ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (เดิมเรียกว่า “บัตรทอง หรือบัตร 30 บาท”) และ (2) ประชากร
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างประจำของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในชุมชนพหลโยธิน 45 ใช้สิทธิสวัสดิการ
รักษาพยาบาลโดยเบิกได้จากหน่วยงานรัฐ ซึ่งเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย ตัวแปรที่ใช้ศึกษา
คือ เกณฑ์ประเมินผลการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพในโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ซึ่งประกอบด้วย
การได้รับคำแนะนำในการดูแลส่งเสริมสุขภาพ การได้รับบริการเชิงรุกจากเจ้าหน้าที่ การมีความรู้พื้นฐานใน
การดูแลตนเอง การมีทักษะพื้นฐานในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการได้รับการคัดกรองโรค ทำการวิเคราะห์
ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ไคสแควร์ ผลการศึกษาพบว่า ชุมชนประดิษฐ์โทรการ
(พหลโยธิน 47-49) ได้รับคำแนะนำในการดูแลส่งเสริมสุขภาพ เรื่องการกินอาหารที่พอเหมาะมาก
ที่สุดถึงร้อยละ 73.1 ส่วนชุมชนพหลโยธิน 45 เป็นเรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมมากที่สุดถึง
ร้อยละ 63.3 และทั้งสองกลุ่มได้รับบริการเชิงรุกจากเจ้าหน้าที่ในการสนับสนุนการพึ่งตนเองมากที่สุด
ร้อยละ 83.6 และ 61.7 การมีความรู้พื้นฐานในการดูแลตนเองเมื่อเป็นไข้เป็นหวัดสูงถึงร้อยละ 89.6
และ 70.0 การมีทักษะพื้นฐานในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีเลือดกำเดาออกร้อยละ 79.1 และ 53.3
และการได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 59.7 และ 36.7 และโรค เบาหวานร้อยละ 38.8
และ 35.0 ตามลำดับ การได้รับบริการเชิงรุกจากเจ้าหน้าที่และการมีทักษะพื้นฐานในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
รวมทั้งการได้รับการคัดกรองโรคของทั้งสองกลุ่มมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสรุป มาตรฐานการ
จัดระบบบริการปฐมภูมิในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการด้านการ
ส่งเสริมสุขภาพได้ พยาบาลชุมชนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนซึ่งจะ
นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี |
---|