The frictional force learning module based on hands-on and interactive lecture demonstration approaches

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการสร้างชุดการเรียนการสอนเรื่องแรงเสียดทาน เพื่อเพิ่มความเข้าใจของนักเรียนไทยในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ เริ่มต้นจากการศึกษาสาระสำคัญเรื่องแรงเสียดทานในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ จากนั้นสร้างคำถามปลายเปิดเพื่อสำรวจความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับแนวคิดหลักของแรงเสียดทาน...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Singha Prasitpong
Other Authors: Ratchapak Chitaree
Language:English
Published: Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center 2023
Subjects:
Online Access:https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/89491
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Mahidol University
Language: English
Description
Summary:วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการสร้างชุดการเรียนการสอนเรื่องแรงเสียดทาน เพื่อเพิ่มความเข้าใจของนักเรียนไทยในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ เริ่มต้นจากการศึกษาสาระสำคัญเรื่องแรงเสียดทานในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ จากนั้นสร้างคำถามปลายเปิดเพื่อสำรวจความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับแนวคิดหลักของแรงเสียดทาน คำถามนี้ใช้เก็บข้อมูลกับนักเรียนจำนวน 241 คน และพบความเข้าใจผิดของนักเรียนไทยในแนวคิดหลักของทิศทางของแรงเสียดทาน ชนิดของแรงเสียดทาน และปัจจัยที่ส่งผลต่อขนาดของแรงเสียดทานไถล นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการสร้างและพัฒนาชุดการเรียนการสอนเรื่องแรงเสียดทานได้แก่ แบบสำรวจความเข้าใจเรื่องแรงเสียดทาน แผนการสอนโดยอาศัยรูปแบบกระบวนการเรียนการสอนแบบลงมือทำ(Hands-On)และการบรรยายประกอบการสาธิตเชิงปฏิสัมพันธ์ (ILDs) ชุดสาธิตทิศของแรงเสียดทาน ชุดสาธิตชนิดของแรงเสียดทานและชุดสาธิตปัจจัยที่ส่งผลต่อขนาดของแรงเสียดทาน รวมทั้งใบงานประกอบการเรียนเรื่องแรงเสียดทาน ชุดการเรียนการสอนเหล่านี้ได้รับการประเมินจากทั้งผู้เชี่ยวชาญ และการนำไปทดลองใช้กับนักเรียน 63 คน เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการนำชุดการเรียนการสอนนี้ไปใช้สอนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่จำนวน 293 คน เพื่อประเมินคุณภาพ จากการประเมินความเข้าใจด้านเนื้อหาและความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดการเรียนการสอน พบว่า การสอนโดยใช้ชุดการเรียนการสอนที่สร้างขึ้นนี้ ทำให้นักเรียนมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง (<g> = 0.61) และนักเรียนกว่า 85 เปอร์เซนต์เห็นด้วยว่าชุดการเรียนการสอนนี้ช่วยให้เข้าใจเรื่องแรงเสียดทานเพิ่มขึ้น