การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว
เฟิร์น Cyclosorus terminans (วงศ์ Thelypteridaceae) เป็นพืชชั้นต่ำที่พบได้ทั่วไปในเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศไทย ยอดอ่อนสามารถรับประทานเป็นอาหารได้และเป็นสมุนไพรมีศักยภาพใน การพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเบาหวานและความอ้วนเนื่องจากมีสารออกฤทธิ์อินเตอร์รับตินเอ และบีงานวิจัยนี้จึงมีวัตถ...
Saved in:
Main Authors: | , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Technical Report |
Language: | Thai |
Published: |
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2021
|
Subjects: | |
Online Access: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13382 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Prince of Songkhla University |
Language: | Thai |
id |
th-psu.2016-13382 |
---|---|
record_format |
dspace |
institution |
Prince of Songkhla University |
building |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
continent |
Asia |
country |
Thailand Thailand |
content_provider |
Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center |
collection |
PSU Knowledge Bank |
language |
Thai |
topic |
เฟิน สารสกัด สารสกัดจากพืช |
spellingShingle |
เฟิน สารสกัด สารสกัดจากพืช สิรีวรรณ วิริยกุลโอภาศ ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
description |
เฟิร์น Cyclosorus terminans (วงศ์ Thelypteridaceae) เป็นพืชชั้นต่ำที่พบได้ทั่วไปในเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศไทย ยอดอ่อนสามารถรับประทานเป็นอาหารได้และเป็นสมุนไพรมีศักยภาพใน การพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเบาหวานและความอ้วนเนื่องจากมีสารออกฤทธิ์อินเตอร์รับตินเอ และบีงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาวิธีการเตรียมสารสกัดเฟิร์น C. terminans ที่มีสารกลุ่ม อินเตอร์รับตินในปริมาณสูงและมีความคงตัว โดยศึกษาเปรียบเทียบผลการสกัดสารอินเตอร์รับตินด้วย ตัวทำละลาย 3 ชนิด ได้แก่ เอทานอล 95% ไอโซโพรพานอล และเอธิลอะซิเตท และใช้วิธีการสกัด 4 วิธี ได้แก่ การแช่หมักโดยใช้เครื่องเขย่า การแช่หมักโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูง การแช่หมักโดยคลื่น ไมโครเวฟ และการสกัดแบบไหลย้อนกลับ จากการศึกษาพบว่าการสกัดด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับให้ปริมาณสารอินเตอร์รับตินรวม (เอ บี และซี) สูงสุดเท่ากับ 0.21 %w/w ของน้ำหนัก ผงยาเริ่มต้น นอกจากนี้การใช้ตัวทำละลายไอโซโพรพานอลในการสกัดโดยโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูง ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสกัดสารกลุ่มอินเตอร์รับตินเอ บี และซีจากเฟิร์น C. terminans เนื่องจาก ให้ปริมาณสารอินเตอร์รับตินรวม (เอ บี และซี) (0.15 %w/w) ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการใช้ เอธิลอะซิเตท (0.14 %w/w) ในวิธีการสกัดเดียวกันและวิธีการหมักโดยใช้เครื่องเขย่า (0.16 %w/w) อย่างไรก็ตามการใช้ตัวทำละลายเอทานอล 95% แม้ว่าจะให้ปริมาณสารสกัดสูงกว่าการสกัดด้วยไอโซโพรพานอล และเอธิลอะซิเตท แต่การสกัดด้วย เอทานอล 95% สกัดได้เพียงอินเตอร์รับตินซีเท่านั้น ไม่สามารถสกัด อินเตอร์รับตินเอและบีได้
สารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับ และสารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลายไอโซโพรพานอลโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูงมีความคงตัวทางกายภาพและเคมีดี เมื่อเก็บในภาชนะปิดสนิทและป้องกันแสงที่อุณหภูมิต่าง ๆ ได้แก่ ในที่เย็น (4°C) อุณหภูมิห้อง (30°C) และในสภาวะเร่ง (45°C) รวมทั้งวางไว้ในที่มีแสงในอุณหภูมิห้อง (30°C) เป็นเวลานาน 3 เดือน และมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ แบคทีเรียกรัมบวกชนิด MSSA และ MRSA ได้โดยมีค่า MIC เท่ากับ 16-64 μg/ml โดยสารสกัดเฟิร์นที่สกัด ด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับ มีฤทธิ์ดีกว่าสารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลาย ไอโซโพรพานอลโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูงประมาณ 2 เท่า
ดังนั้นการพัฒนาวิธีการเตรียมสารสกัดเฟิร์น C. terminans ที่มีสารกลุ่มอินเตอร์รับตินในปริมาณสูงและมีความคงตัวดังกล่าวจึงมีศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเวชสำอาง อาหารเสริมสุขภาพและยาในอนาคต |
author2 |
Faculty of Pharmaceutical Sciences (Pharmacognosy and Pharmaceutical Botany) |
author_facet |
Faculty of Pharmaceutical Sciences (Pharmacognosy and Pharmaceutical Botany) สิรีวรรณ วิริยกุลโอภาศ ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ |
format |
Technical Report |
author |
สิรีวรรณ วิริยกุลโอภาศ ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ |
author_sort |
สิรีวรรณ วิริยกุลโอภาศ |
title |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
title_short |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
title_full |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
title_fullStr |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
title_full_unstemmed |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
title_sort |
การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว |
publisher |
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
publishDate |
2021 |
url |
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13382 |
_version_ |
1695734281899343872 |
spelling |
th-psu.2016-133822021-03-02T04:53:08Z การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว Development of preparation process for interruptins A and B-rich fern (Cyclosorus terminans) extract and its stability รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง การพัฒนาวิธีเตรียมสารสกัดเฟิร์น (Cyclosorus terminans) ที่มีอินเตอร์รับตินเอและบีในปริมาณสูงและมีความคงตัว สิรีวรรณ วิริยกุลโอภาศ ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ Faculty of Pharmaceutical Sciences (Pharmacognosy and Pharmaceutical Botany) คณะเภสัชศาสตร์ ภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษศาสตร์ เฟิน สารสกัด สารสกัดจากพืช เฟิร์น Cyclosorus terminans (วงศ์ Thelypteridaceae) เป็นพืชชั้นต่ำที่พบได้ทั่วไปในเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศไทย ยอดอ่อนสามารถรับประทานเป็นอาหารได้และเป็นสมุนไพรมีศักยภาพใน การพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเบาหวานและความอ้วนเนื่องจากมีสารออกฤทธิ์อินเตอร์รับตินเอ และบีงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาวิธีการเตรียมสารสกัดเฟิร์น C. terminans ที่มีสารกลุ่ม อินเตอร์รับตินในปริมาณสูงและมีความคงตัว โดยศึกษาเปรียบเทียบผลการสกัดสารอินเตอร์รับตินด้วย ตัวทำละลาย 3 ชนิด ได้แก่ เอทานอล 95% ไอโซโพรพานอล และเอธิลอะซิเตท และใช้วิธีการสกัด 4 วิธี ได้แก่ การแช่หมักโดยใช้เครื่องเขย่า การแช่หมักโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูง การแช่หมักโดยคลื่น ไมโครเวฟ และการสกัดแบบไหลย้อนกลับ จากการศึกษาพบว่าการสกัดด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับให้ปริมาณสารอินเตอร์รับตินรวม (เอ บี และซี) สูงสุดเท่ากับ 0.21 %w/w ของน้ำหนัก ผงยาเริ่มต้น นอกจากนี้การใช้ตัวทำละลายไอโซโพรพานอลในการสกัดโดยโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูง ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสกัดสารกลุ่มอินเตอร์รับตินเอ บี และซีจากเฟิร์น C. terminans เนื่องจาก ให้ปริมาณสารอินเตอร์รับตินรวม (เอ บี และซี) (0.15 %w/w) ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการใช้ เอธิลอะซิเตท (0.14 %w/w) ในวิธีการสกัดเดียวกันและวิธีการหมักโดยใช้เครื่องเขย่า (0.16 %w/w) อย่างไรก็ตามการใช้ตัวทำละลายเอทานอล 95% แม้ว่าจะให้ปริมาณสารสกัดสูงกว่าการสกัดด้วยไอโซโพรพานอล และเอธิลอะซิเตท แต่การสกัดด้วย เอทานอล 95% สกัดได้เพียงอินเตอร์รับตินซีเท่านั้น ไม่สามารถสกัด อินเตอร์รับตินเอและบีได้ สารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับ และสารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลายไอโซโพรพานอลโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูงมีความคงตัวทางกายภาพและเคมีดี เมื่อเก็บในภาชนะปิดสนิทและป้องกันแสงที่อุณหภูมิต่าง ๆ ได้แก่ ในที่เย็น (4°C) อุณหภูมิห้อง (30°C) และในสภาวะเร่ง (45°C) รวมทั้งวางไว้ในที่มีแสงในอุณหภูมิห้อง (30°C) เป็นเวลานาน 3 เดือน และมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ แบคทีเรียกรัมบวกชนิด MSSA และ MRSA ได้โดยมีค่า MIC เท่ากับ 16-64 μg/ml โดยสารสกัดเฟิร์นที่สกัด ด้วยตัวทำละลายเอธิลอะซิเตทโดยวิธีสกัดแบบไหลย้อนกลับ มีฤทธิ์ดีกว่าสารสกัดเฟิร์นที่สกัดด้วยตัวทำละลาย ไอโซโพรพานอลโดยใช้เครื่องเขย่าด้วยคลื่นความถี่สูงประมาณ 2 เท่า ดังนั้นการพัฒนาวิธีการเตรียมสารสกัดเฟิร์น C. terminans ที่มีสารกลุ่มอินเตอร์รับตินในปริมาณสูงและมีความคงตัวดังกล่าวจึงมีศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเวชสำอาง อาหารเสริมสุขภาพและยาในอนาคต The fern Cyclosorus terminans (Thelypteridaceae) is a lower plant commonly found in tropical area espically in southern Thailand. It can be eaten as vegetable and also is a potential medicinal plant for antibiotic, antidiabetic, and antiobesity drug development due to active interrupins A and B. Therefore, this research work aims to develop the preparation process for interruptins-rich fern (C. terminans) extract with suitable stability. Comparison study of interruptin extraction by three solvents including 95% EtOH, isopropanol, and EtOAc and four extraction methods including maceration, ultrasound assisted extraction, microwave-assisted extraction, reflux extraction was performed. It was found that using EtOAc with reflux extraction exhibited highest total interruptins (A, B, and C) as 0.21 %w/w of plant powder. Nevertheless, using isopropanol with ultrasound-assisted extraction was an alternative process for interruptins A-C extraction from C. terminans, since it provided total interruptins (A-C) (0.15 %w/w) no significant different from using EtOAc (0.14 %w/w) when extraction by the same process or maceration (0.16 %w/w). However, using 95% EtOH even gave higher extract yield than using isopropanol and EtOAc, whereas it can only extract interruptin C, not interruptins A and B. The extracts prepared by EtOAc with reflux extraction and by isopropanol with ultrasound-assisted extraction revealed appropriate physical and chemical stability when kept in the dark at various temperatures (4, 30, and 45°C) as well as in the light at 30°C over 3 months. They also demonstrated antibacterial activity against gram positive bacteria MSSA and MRSA with MICs of 16-64 μg/ml). The extracts prepared by EtOAc with reflux extraction showed 2 times better antibacterial activity than the extracts prepared by isopropanol with ultrasound-assisted extraction. Therefore, development of preparation process for interruptins-rich fern (C. terminans) extract with suitable stability has potential application for cosmeceutical, supplement and drug development in the future. 2021-03-02T04:53:08Z 2021-03-02T04:53:08Z 2556 Technical Report http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13382 th application/pdf มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |