การประเมินความสกปรกเพื่อการฟื้นฟูคุณภาพน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา
จากผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พบว่าคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมถึงเสื่อมโทรมมาก และจากการประเมินความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD Loading) ในปี 2547 พบว่ามีปริมาณความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาผ่านลำคลองสาขาในแต่ละ...
Saved in:
Main Author: | |
---|---|
Format: | Other |
Language: | th_TH |
Published: |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16
2015
|
Subjects: | |
Online Access: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15646 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Prince of Songkhla University |
Language: | th_TH |
Summary: | จากผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พบว่าคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมถึงเสื่อมโทรมมาก และจากการประเมินความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD Loading) ในปี 2547 พบว่ามีปริมาณความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาผ่านลำคลองสาขาในแต่ละลุ่มน้ำย่อย มีมากถึงประมาณ 12,000 ตันต่อปี โดยพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยที่มีปริมาณความสกปรกมากที่สุด คือลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา มีปริมาณความสกปรกประมาณ 5,200 ตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 ของปริมาณความสกปรกทั้งหมด แต่
ปัจจุบันยังไม่มีการบริหารจัดการเพื่อการรักษาและฟื้นฟู เนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญด้านการจัดการคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะข้อมูลด้านความสกปรกจากแหล่งกำเนิดต้นทางของแต่ละชุมชน หรือแต่ละแหล่งของพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย ยังไม่มีการศึกษาสำรวจหรือมีในวงจำกัด ทำให้การกำหนดแผนปฏิบัติการในการฟนื้ ฟูคุณภาพน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพื้นฟูคุณภาพน้ำ ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เป็นไปในลักษณะต่างคนต่าง
ทำ เนื่องจากไม่มีกรอบชี้นำหรือลำดับความสำคัญที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือพื้นที่วิกฤตที่จะต้องฟื้นฟูหรือพื้นที่ที่จะต้องป้องกันด้วยเหตุดังกล่าว กรมควบคุมมลพิษ จึงได้ร่วมกับ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ดำเนินโครงการ “ประเมินความสกปรกเพื่อการฟื้นฟูคุณภาพนํ้าพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา” โดยดำเนินการ (1) ประเมินปริมาณความสกปรกในรูปบีโอดี ไนโตรเจน และฟอสเฟตในลำน้ำสายหลัก รวมทั้งอัตราการไหลของน้ำ (2) สำรวจสภาพทั่วไปของลำคลอง (3) สำรวจและวัดปริมาณน้ำเสียหรือน้ำทิ้งจากชุมชน รวมทั้งตรวจวัดความสกปรก และ (4) วิเคราะห์และเรียบเรียงเป็นแผนฟื้นฟูคุณภาพน้ำ โดยจัดลำดับพื้นที่ที่จะฟื้นฟู และกิจกรรมที่เหมาะสมที่จะดำเนินการ |
---|