ทำ ประมงอย่างไรให้ยั่งยืน กรณีศึกษาทะเลสาบสงขลา

การวิเคราะห์พฤติกรรมการตอบสนองต่อนโยบายการจับสัตว์น้ำของ ชาวประมงในทะเลสาบสงขลานี้ ได้ออกแบบการศึกษาโดยใช้แนวคิดพื้นฐาน ของการใช้ทรัพยากรร่วมกันและใช้ทฤษฎีเกมเป็นฐานแนวคิด โดยเลือกการ จับกุ้งด้วยไซนั่งเป็นกรณีศึกษา การศึกษาได้สังเกตพฤติกรรมการจับสัตว์น้ำ ภายใต้มาตรการต่างๆ ในสองสถานการณ์คือ เมื่...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: คณะเศรษฐศาสตร์, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Format: Book
Language:th_TH
Published: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2015
Subjects:
Online Access:http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15894
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Prince of Songkhla University
Language: th_TH
Description
Summary:การวิเคราะห์พฤติกรรมการตอบสนองต่อนโยบายการจับสัตว์น้ำของ ชาวประมงในทะเลสาบสงขลานี้ ได้ออกแบบการศึกษาโดยใช้แนวคิดพื้นฐาน ของการใช้ทรัพยากรร่วมกันและใช้ทฤษฎีเกมเป็นฐานแนวคิด โดยเลือกการ จับกุ้งด้วยไซนั่งเป็นกรณีศึกษา การศึกษาได้สังเกตพฤติกรรมการจับสัตว์น้ำ ภายใต้มาตรการต่างๆ ในสองสถานการณ์คือ เมื่อทะเลสาบมีปริมาณกุ้ง ในทะเลสาบมากและน้อย โดยปริมาณกุ้งในทะเลสาบจะถูกกำหนดจากระดับ ความเค็มของน้ำซึ่งได้รับอิทธิพลจากฤดูกาล ผลการศึกษาพบว่า มาตรการการให้ชาวประมงร่วมกันจัดการ (Co-management) จะสามารถควบคุมจำนวนการวางไซให้อยู่ในระดับ ที่เหมาะสมได้ดีกว่ากรณีการใช้มาตรการบังคับโดยภาครัฐ (External Regulation) และพบว่าทรัพยากรประมงมีความยั่งยืนมากกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้นโยบายการให้สิทธิการจับสัตว์น้ำที่ต่างกัน จะส่งผลต่อการละเมิดกฎของชาวประมงต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ชาวประมงฝ่าฝืนกฎลดลงเมื่อใช้นโยบายให้สิทธิการจับสัตว์น้ำที่เปลี่ยนมือได้ (Individual Transferable Quotas: ITQs) โดยเปรียบเทียบกับกรณีให้ สิทธิที่ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ (Individual Quotas: IQs) สาเหตุเนื่องจาก นโยบายให้สิทธิที่สามารถเปลี่ยนมือได้ มีความยืดหยุ่นมากกว่าสำหรับ ชาวประมงที่ต้องการเปลี่ยนแปลงจำนวนการวางไซ อย่างไรก็ตามการใช้มาตรการการกำหนดโควตาที่สามารถ เปลี่ยนมือได้นี้ ต้องอยู่ภายใต้การกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสม