การพัฒนาน้ำยางพรีวัลคาไนซ์สำหรับงานหล่อแบบขั้นสูง
การศึกษาการเตรียมน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์ โดยใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกันในการเตรียมพรีวัลคาไนซ์ ซึ่งได้แก่ 50, 60, 70 และ 80 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ดัชนี การบวมพองมีค่าลดลงด้วยอัตราเร็วตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ เมื่อนำน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์มาเตรียมเป็นแผ่นฟิล์ม 2 รูปแบบ ได้แก่ แผ่นฟิล์มพรีวั...
Saved in:
Main Authors: | , |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Technical Report |
Language: | Thai |
Published: |
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2022
|
Online Access: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17647 https://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/305337 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Prince of Songkhla University |
Language: | Thai |
Summary: | การศึกษาการเตรียมน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์ โดยใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกันในการเตรียมพรีวัลคาไนซ์ ซึ่งได้แก่ 50, 60, 70 และ 80 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ดัชนี
การบวมพองมีค่าลดลงด้วยอัตราเร็วตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ เมื่อนำน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์มาเตรียมเป็นแผ่นฟิล์ม 2 รูปแบบ ได้แก่ แผ่นฟิล์มพรีวัลคาไนซ์
และแผ่นฟิล์มโพสต์วัลคาไนซ์ พบว่า ลักษณะการวัลคาไนซ์ของแผ่นฟิล์มพรีวัลคาไนซ์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยของอุณหภูมิและเวลาในการเตรียมพรีวัลคาไนซ์เป็นสำคัญ ในขณะที่
ลักษณะการวัลคาไนซ์ของแผ่นฟิล์มโพสต์วัลคาไนซ์ไม่มีผลจากปัจจัยของอุณหภูมิและเวลาในการเตรียมพรีวัลคาไนซ์อย่างมีนัยสำคัญ การใช้สภาวะในการเตรียมพรีวัลคา
ไนซ์ที่แตกต่างกัน (ที่ดัชนีการบวมพองเท่ากัน) จะส่งผลต่อสมบัติของน้ำยางพรีวัลคาไนซ์ที่เตรียมได้ แต่ไม่ส่งผลต่อสมบัติเชิงกลของแผ่นฟิล์มยาง การเพิ่มปริมาณของสาร
เพิ่มความเสถียร (สบู่) ทั้งสองชนิดคือ K-oleate และ Sodium Lauryl Sulphate (SDS) ในน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์ จะส่งผลให้ความเสถียรของน้ำยางมี
แนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซิงค์ออกไซด์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์สูญเสียสภาพความเป็นคอลลอยด์ โดยเมื่อไม่มีการใช้ซิงค์ออกไซด์ในระบบการเตรี
ยมน้ำยางธรรมชาติคอมเปาด์ พบว่า น้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์ยังคงสภาพความเป็นคอลลอยด์ได้นานกว่า 90 วัน และยังให้สมบัติเชิงกลของแผ่นฟิล์มยางที่ใกล้เคียงกับน้ำ
ยางธรรมชาติ พรีวัลคาไนซ์ทางการค้า การเตรียมน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์เพื่อใช้ในการทำเบ้าหินเทียม พบว่า ต้องใช้วิธีการ 2 ขั้นตอน ในการทำเบ้าดังกล่าว นั่นคือ กา
รพ่นสเปรย์และการทาด้วยแปรง โดยน้ำยางธรรมชาติพรีวัลคาไนซ์ที่ใช้สำหรับการทาด้วยแปรงเป็นน้ำยางพรีวัลคาไนซ์ที่ต้องมีการผสมกับสารเพิ่มความหนืด 2%CMC ใน
ปริมาณ 1 phr ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการใช้ทำเบ้าหินเทียม |
---|