อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย

บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต(บริหารธุรกิจ),2564

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: สุพัตรา เนื้ออ่อน
Other Authors: สุนันทา เหมทานนท์
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2023
Subjects:
Online Access:http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17887
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Prince of Songkhla University
Language: Thai
id th-psu.2016-17887
record_format dspace
institution Prince of Songkhla University
building Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Khunying Long Athakravi Sunthorn Learning Resources Center
collection PSU Knowledge Bank
language Thai
topic การตลาดเชิงเนื้อหา
การสื่อสารแบบปากต่อปากอิเล็กทรอนิกส์
การตั้งใจซื้อซ้ำ
ทัศนคติต่อตราสินค้า
อินสตาแกรม
พฤติกรรมผู้บริโภค
การเลือกของผู้บริโภค
spellingShingle การตลาดเชิงเนื้อหา
การสื่อสารแบบปากต่อปากอิเล็กทรอนิกส์
การตั้งใจซื้อซ้ำ
ทัศนคติต่อตราสินค้า
อินสตาแกรม
พฤติกรรมผู้บริโภค
การเลือกของผู้บริโภค
สุพัตรา เนื้ออ่อน
อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
description บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต(บริหารธุรกิจ),2564
author2 สุนันทา เหมทานนท์
author_facet สุนันทา เหมทานนท์
สุพัตรา เนื้ออ่อน
format Theses and Dissertations
author สุพัตรา เนื้ออ่อน
author_sort สุพัตรา เนื้ออ่อน
title อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
title_short อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
title_full อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
title_fullStr อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
title_full_unstemmed อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
title_sort อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย
publisher มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
publishDate 2023
url http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17887
_version_ 1762854936336400384
spelling th-psu.2016-178872023-03-03T06:57:58Z อิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และทัศนคติต่อตราสินค้าที่ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม)ของ ผู้บริโภคในประเทศไทย The Influences of Content Marketing Electronic Word of Mouth (E-WOM) and Brand Attitudes on Repurchase Intentions Via Social Media (Instagram) of Consumer in Thailand สุพัตรา เนื้ออ่อน สุนันทา เหมทานนท์ Faculty of Management Sciences (Business Administration) คณะวิทยาการจัดการ ภาควิชาบริหารธุรกิจ การตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากอิเล็กทรอนิกส์ การตั้งใจซื้อซ้ำ ทัศนคติต่อตราสินค้า อินสตาแกรม พฤติกรรมผู้บริโภค การเลือกของผู้บริโภค บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต(บริหารธุรกิจ),2564 This research aimed to study the priorities of content marketing electronic word of mouth (E-WOM) and brand attitudes of customers via social media (Instagram) in Thailand. To study the influence of content marketing on repurchasing of customers via social media (Instagram) in Thailand. To study the influence of electronic word of mouth (E-WOM) on repurchasing of customers via social media (Instagram) in Thailand. And to study the influence of brand attitudes on repurchasing of customers via social media (Instagram) in Thailand. The author employed a questionnaire as a tool to collect data. The population for the study were 385 Thai customers who had purchased beauty cosmetics sold online, but never used Instagram as a purchase platform before. descriptive statistics included frequency, mean, standard deviation, inferential statistics, and the multiple regress the were used to describe the study results in addition. The study was found that most single females, aged between 21 to 25, studying at the ungraduated level of that time while the data were collected, self-employed, earning monthly salary range between 10,001-20,000 Thai Baht and residing in the South of Thailand which are likely to use Instagram Stories and most did not have the name of favorite cosmetics products or regular purchases through the storefront and the data analysis was used by the multiple regression which were found that the factors of E-WOM (Beta=0.503, t=8.558) customers’ brand attitudes (Beta = 0.177, t = 2.919) were the main factors for customers’ repurchase intentions via social media (Instagram) at the statistical significance of 0.05. However, there was no apparent influence on customers ‘repurchase intentions on Instagram regarding to the content marketing factors also, this study was suggested that the brand owners considered the factors of E-WOM and the brand attitudes towards the repurchasing intentions via social media into the account as the factors that increase the customers’ behavior in repurchasing intention วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของตัวแปรการตลาดเชิงเนื้อหา การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์(E-WOM) และทัศนคติต่อตราสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย เพื่อศึกษาอิทธิพลของการตลาดเชิงเนื้อหาที่มีผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย เพื่อศึกษาอิทธิพลของการสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์(E-WOM) ที่มีผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย เพื่อศึกษาอิทธิพลของทัศนคติต่อตราสินค้าที่มีผลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างที่คือผู้บริโภคในประเทศไทย ที่เคยซื้อสินค้าเครื่องสำอางผ่านหน้าร้านแต่ไม่เคยซื้อสินค้าเครื่องสำอางดังกล่าวที่นำเสนอผ่านอินสตาแกรมมาก่อน จำนวน 385 คน ซึ่งนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน โดยใช้การวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณ ด้วยวิธี Enter ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 21-25 ปี การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี สถานภาพโสด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการหรืออาชีพอิสระ รายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 10,001-20,000 บาท มีพฤติกรรมที่ชื่นชอบในการใช้ Instagram คือ Story IG และส่วนใหญ่จะไม่มีชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ชื่นชอบหรือซื้อประจำผ่านหน้าร้าน และผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ พบว่า ปัจจัยด้านการสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์(Beta = 0.503, t = 8.558) ปัจจัยด้านทัศนคติต่อตราสินค้า(Beta = 0.177, t = 2.919) เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่ในส่วนของปัจจัยด้านการตลาดเชิงเนื้อหาไม่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อซ้ำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (อินสตาแกรม) ของผู้บริโภคในประเทศไทย ดังนั้น เจ้าของตราสินค้าหรือผู้ประกอบการควรที่จะตระหนักถึงปัจจัยด้านการสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และปัจจัยด้านทัศนคติต่อตราสินค้ามากขึ้น เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนช่วยให้ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรมการตั้งใจซื้อซ้ำได้เพิ่มขึ้น 2023-03-03T06:57:58Z 2023-03-03T06:57:58Z 2021 Thesis http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17887 th Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Thailand http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/3.0/th/ application/pdf มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์